Menu
สรุปทีเด็ด – พรีเมียร์ลีคคืนวันเสาร์ที่ 4 เป็นการพบกันระหว่าง ทีมรองบ๊วย เอฟเวอร์ตัน กับทีมจ่าฝูงลุ้นแชมป์ อาร์เซนอล ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ที่พึ่งเปลี่ยนกุนซือมาเป็น ฌอน ไดช์ มีความน่าสนใจที่ว่า เป็นกุนซือที่เชี่ยวชาญและ คุ้นเคยกับการทำงานในโซนตกชั้นเป็นอย่างดีจะได้พิสูจน์ฝีมือเลยด้วยการเปิดบ้านรับมือจ่าฝูง และต้องไม่ลืมว่าบอลเปลี่ยนโค้ชก็มักจะเล่นดีเป็นพิเศษ ที่ให้เกมส์นี้อาจไม่ง่ายอย่างที่คิดน่าจะสร้างความกดดันไม่น้อยให้กับทัพอาร์เซนอลที่ต้องการ 3 คะแนนเต็ม ให้ได้ในเกมนี้เพื่อที่จะทิ้งห่างทีมรองจ่าฝูงอย่าง แมนฯ ซิตี้ เป็น 8 คะแนนเหมือนเดิม ตารางบอลวันนี่ จริงอยู่ที่ล่าสุดเพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ แมนฯซิตี้ 0-1 ตกรอบศึก เอฟเอ คัพ เรียบร้อย แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วด้วยคุณภาพนักเตะของทัพปืนใหญ่ ทีมมีแนวรุกจัดจ้านกว่า โดยเฉพาะ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ฟอร์มเปล่งปลั่งเหลือเกิน นำเป็นดาวซัลโวของทีมด้วยผลงาน 8 ประตูอยู่ในขณะนี้ ทัพ “ปืนใหญ่” มีโอกาสจะบุกมาเก็บชัยชนะออกไปได้มากกว่าแบบไม่ยากเย็นนัก
เจ้าบ้าน – ท๊อปฟีสีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน รั้งอยู่อันดับที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยชัยชนะเพียง 3 นัด และเก็บได้เพียง 15 คะแนนจาก 20 เกม มีปัญหาใน เกมรุก ซึ่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยิงได้เพียง 15 ลูก และมีเพียง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่ยิงได้น้อยกว่าที่ 12 ลูก และจากสถิติที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน มีปัญหาทั้งการเล่นในบ้าน และนอกบ้าน โดยตลอด 5 เกมหลังสุดในลีกพวกเขาไม่พบกับชัยชนะเลย และที่สำคัญมันเป็นการพ่ายในบ้าน 3 เกมติดต่อกันให้กับทีมอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน, ไบรท์ตัน และ เซาแธมป์ตัน ความพร้อมของทีมในเกมนี้ของเจ้าบ้าน ยังมีนักเตะบาดเจ็บเยอะพอสมควร ทั้ง นาธาน แพตเตอร์สัน,เจมส์ การ์เนอร์, แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เบน ก็อดฟรีย์ และ ไมเคิล คีน คาดว่ากุนซือคนใหม่ ฌอน ไดซ์ จะจัดทัพในระบบ 3-5-2 โดยมี เดมาไร เกรย์ กับ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน จะเล่นร่วมกันในแนวรุกผนึกกำลังกันล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ อเล็กซ์ อิโวบี้, อิดริสซ่า กูเอเย่ กับ อมาดู โอนาน่า ปักหลักคุมเชิงจากแดนกลาง
ทีมเยือน – ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ยังร้อนแรงไม่หยุดยั้ง ผ่านมา 19 นัด ทัพ “ปืนใหญ่” ชนะ 16 เสมอ 2 แพ้แค่เกมเดียวในลีก และเป็นเกมที่ 13 ติดต่อกันแล้วที่ไม่แพ้ใครในลีก ปัจจุบันมีคะแนนทิ้งห่างอันดับสอง 5 คะแนน แต่ลงแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลง หลังจากศึก เอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน พวกเขาไม่มีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม นอกเสียจาก กาเบรียล เฮซุส, รีสส์ เนลสัน กับ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ สามแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งอยู่ในระหว่างพักรักษาตัว และ ต้องรอเช็คอาการของ โธมัส ปาร์เตย์ ห้องเครื่องคนสำคัญ คาดว่าเทรนเนอร์ชาวสแปนิช มิเกล อาร์เตต้า จะวางระบบ 4-2-3-1 เช่นเดิม เบน ไวต์, วิลเลียม ซาลิบา, ซินเชนโก้, มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ได้พักเมื่อเกมที่แล้ว จะคืนสู่ทีมทั้งหมด
11 Players
Everton (3-5-2) – Pickford; Coleman, Tarkowski, Coady, Mykolenko; Iwobi, Gueye, Onana, McNeil; Gray, Calvert-Lewin
Arsenal (4-2-3-1)– Ramsdale; White, Saliba, Gabriel, Zinchenko; Xhaka, Partey; Saka, Odegaard, Martinelli; Nketiah
Missing Players
Everton – A. Townsend (Cruciate Ligament Injury), M. Keane (Muscle Injury), B. Godfrey (Sprained Knee Injury)
Arsenal – Thomas (Rib Injury), M. Elneny (Knock Injury), Gabire Jesus (Knee Injury), R.Nelson (Knock Injury), Smith Rowe (Thight injury)
สรุปทีเด็ด – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสสี่ จะเปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 12 โดยทั้งสองทีมมีคะแนนห่างกัน 15 คะแนน แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดีในบ้านในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากพวกเขาเก็บชัยชนะได้ 12 เกมหลังสุดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รวมทุกรายการ รวมถึงเกมเหย้า 5 นัดหลังสุด ส่วนทีมเยือน คริสตัล พาเลซไม่ชนะใครเลยจาก 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แถมโดนยังไปถึง 8 ประตู โดยที่ทั้งสองทีมนั้นพึ่งจะลงเตะกันมาไม่นานนี้เอง และประตูจากลูกฟรีคิกตีเสมอปีศาจแดงช่วงทดเวลาในนาทีสุดท้ายก็สร้างความเจ็บแค้นเอาไว้มาก นัดนี้จึงเป็นเหมือนนัดล้างตาและถือเป็นการเก็บสามแต้มสำคัญของปีศาจแดงให้ได้ ถ้าเปรียบเทียบคุณภาพนักเตะเจ้าถิ่นดีกว่าแน่นอน แต่สภาพนักแตะของทีมแมนยูต้องขอบอกว่าในเวลานี้ น่าจะกรอบ เพราะต้องกรำศึกมาตลอดทุกสัปดาห์ ล่ะ 2 นัด ส่วนทีมเยือนคริสตัลพาเลซ ตารางบอลวันนี่ น่าจะได้เปรียบเรื่องความฟิตนักเตะได้พักมาเต็มที่ พร้อมวิ่งไล่บี้แย่งบอลในทุกจังหวะ แต่ก็ยังเชื่อว่า แมนยู ในยุค เทน ฮาก น่าจะบดขยี้แก้แค้นได้สำเร็จอย่างแน่นอน
เจ้าบ้าน – ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผลงานในลีกโอกาสจบท็อปโฟร์ยังมีสูง ฟอร์มการเล่นโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ดี มีเพียงความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ส่วนความพร้อมของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังต้องลงแข่งขันโดยไม่มีคริสเตียน อีริคเซ่นไปจนถึงเดือนเมษายน เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ขณะที่ดอนนี่ ฟาน เดอ เบคและสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ก็หมดสิทธิ์เช่นกันเนื่องจากปัญหาหัวเข่าและกล้ามเนื้อตามลำดับ ดีโอโก้ ดาโลต์ยังคงรักษาอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย ดังนั้นอารอน วาน-บิสซาก้าน่าจะยึดตำแหน่งแบ็คขวาต่อไป ร่วมกับราฟาเอล วาราน ,ลิซานโดร มาร์ติเนซและลุค ชอว์ในตำแหน่งแบ็คโฟร์ เจดอน ซานโช่ คาดว่าจะมีชื่อในมานั่งสำรอง และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ อาจจะได้ลงประเดิมสนามในนัดนี้ ส่วนในแนวรุก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล พร้อมกลับมาประจำการในตำแหน่งศูนย์หน้า ร่วมเล่นประสานงานกับ แอนโทนี่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่คาดว่าจะกลับมาเป็นตัวจริง และผู้รักษาประตู ดาบิด เด เคอา ก็น่าจะกลับมาเผ้าเสาเข่นกัน
ทีมเยือน – เดอะอีเกิล คริสตัน พาเลซ ของกุนซือ ปาทริค วิเอร่า ปัจจุบันที รั้งอันดับที่ 12 ของตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นอยู่ 7 แต้ม เพิ่งจะเปิดรังเจ๊า นิวคาสเซิ่ล 0-0 ในลีกช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา การทำประตูดูเป็นเรื่องยากสำหรับพาเลซ ซึ่งเสมอมา 6 นัดจาก 9 เกมเยือนหลังสุด อย่างไรก็ตาม เดอะ อีเกิ้ลส์ สามารถเก็บได้ 7 แต้มจากเกมมาเยือนแมนฯ ยูไนเต็ดใน 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก รวมถึงชัยชนะ 2-1 ในเดือนสิงหาคม 2019 และชัยชนะ 3-1 ในเดือนกันยายน 2020 สำหรับความพร้อมของทีม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่มีเกมลงเตะจึงได้พักมา 14 วันเต็ม ช่วยให้นักเตะตัวหลักกลับมามีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์เต็มที่ วิลฟรีด ซาฮา กำลัง อดีตปีกแมนฯ ยูไนเต็ด กำลังพัก รักษาตัวถึง 6 สัปดาห์ด้วยอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย และเขาต้องพักรักษาตัวร่วมกับเจมส์ แม็คอาเธอร์ (ขาหนีบ) และนาธาน เฟอร์กูสัน (เท้า) รายล่าสุดที่กลับมาลงสนามได้อย่างเต็มที่ก็คือ โจคิม แอนเดอร์สันแต่ก็ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริง ส่วนแนวรุก็ยังคงใช้งานสามประสานอย่าง ไมเคิลโอลิเซ่ , เจฟฟรี่ ชรุป และ เอเซ่ นิกนั้น ก็ไม่น่าจะอะไรเปลี่ยนแปลงจากเกมล่าสุดที่เจอกัน
11 Players
Man united (4-2-3-1) : De Gea; Wan-Bissaka, Varane, Martinez, Shaw; Casemiro, Fred; Antony, Fernandes, Rashford; Weghorst
Crystal Palace (4-2-3-1) : Guaita; Clyne, Richards, Guehi, Mitchell; Eze, Doucoure, Schlupp; Olise, Edouard, Ayew
Missing Players
Man united : C. Eriksen (Ankle Injury), D. Van De Beek (Knee Injury), S. Mctominay (Knock Injury)
Crystal Palace: J. Macrthur (Hip Injury), W.Zaha (Hamstring Injury), J. Andersen(Calf Injury), N.Ferguson
สรปุทีเด็ด – สถิติการเจอกันที่ผ่านมาของทั้งสองทีมนั้น เป็นทางทีมเยือนที่ทำผลงานได้ดีกว่าชัดเจน การเจอกันในปีนี้ 2 ครั้งเช่นกันที่จบด้วยการเสมอ และล่าสุดทีมเยือนก็เพิ่งจะบุกมาเอาชนะไปได้ 0-1 เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา หากดูเผินๆก็คงต้องบอกว่าหวานหมูสำหรับทีมเยือน แต่นั่นก็เป็นอะไรที่ง่ายหากเป็นดั่งสมัยก่อน สองนัดที่ทีมเยือนไม่แพ้ต่อเจ้าบ้านในฤดูกาลนี้ฟอร์มก็หาใช่ว่าจะดี ดังนั้น ตารางบอลวันนี่ วันนี้ก็คงไม่ง่าย มาเทียบตัวผู้เล่นกันระหว่างทั้งสองทีม ถ้าจะเอาชื่อชั้นก็แน่นอนทางทีมเยือนเหนือกว่าแบบเห็นได้ชัด แต่ถ้าจะเอาฟอร์มการเล่นก็ต้องบอกว่าไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ นักเตะทีมเยือนที่เคยเป็นเกรด A ตอนนี้เป็นแค่เกรด B หรือ C สะด้วยซ้ำ แม้จะบอกว่าฟอร์มเจ้าบ้านก็ใช่ว่าจะดี แต่ทีมเยือนก็ฟอร์มไม่ต่างกันจริงๆ เผลอๆวันนี้เจ้าบ้านจะได้ลุ้นสะมากกว่าด้วยซ้ำ ทีมเยือนในตอนนี้ตรากตรำศึกจากฤดูกาลที่แล้วมาแบบเต็มคาราเบล ทำให้นักเตะกรอบไปหมดแล้ว แถมการเสรฺมทัพในตำแหน่งหัวใจของพวกเขาอย่างแดนกลาง กลับไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่มาเป็นแกนหลักสักคน เฮฟวี่ เมทัล เป็นแผนที่ดีแต่นักเตะที่เล่นแผนนี้ได้แต่ดุดัน รวดเร็ว หึกเหิม ซึ่งไม่มีในนักเตะแดนกลางชุดนี้สักคนเดียว ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงมันหายไปหมด ส่วนทางด้านเจ้าบ้านก็เช่นกัน การเล่นเกมส์รับที่เป็นทีเด็ด มันกลับทำได้ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว เมื่อกองหลังก็มักจะเล่นพลาดง่ายๆเช่นกัน ดังนั้นจะบอกว่าวันนี้พอๆกัน ดุแล้วผลเสมอมีทางเป็นไปได้มากที่สุด
เจ้าบ้าน – หมาป่า วูลฟ์แฮมป์ตัน ขึ้นชื่อฤาชาในด้านเกมส์รับเป็นที่สุด นี่คือจุดเด่นที่ทำให้พวกเขาอยู่รอดในพรีเมียร์ลีคมาได้อย่างยาวนาน แต่แล้วฤดูกาลนี้มันดันกลับไม่เป็นดังหวังเหมือนฤดูกาบก่อน ปีนี้วูลฟ์ลงสนาม 20 นัดพวกเขาเสียประตูไปถึง 30 ลูก ตกเฉลี่ยเสียต่อเกมส์ 1.5 ลูกเลยทีเดียว ซึ่งใน 30 ลูกที่เสียไปก็คิดเป็นแบ่งครึ่งระหว่างเกมส์เหย้า และเยือน ดังนั้นก็ต้องบอกว่าฟอร์มในบ้านก็ไม่ได้เหนียวแน่นอะไร หากการเสีย 30 ลูกนั้น เมื่อเทียบกับทีมทั่วไปก็ไม่ถือว่าแปลก เพียงแต่การยิงประตูของพวกเขามันไม่สามารถทำได้แบบเป็นกอบเป็นกำ วูลฟ์แฮมป์ตันเพิ่งจะยิงได้แค่ 12 ประตูเท่านั้นเอง เฉลี่ยยังไม่ถึงลูกเลยต่อนัด นั่นทำให้พวกเขาจมอยู่กับอันดับท้ายตารางไม่สามารถขึ้นมาได้สะที ฟอร์มการเล่นของทีมต้องบอกว่ายังไม่ปะติดปะต่อ ต่อบอลไม่กี่จังหวะก็เสีย มีทีเด็ดที่หวังพึ่งได้ก็แค่ โพแดนซ์ และ รูเบน เนเวส นอกนั้นไม่มีอะไรเลย โดยเฉพาะเกมส์รับ มักจะเหวอพลาดอย่างเป็นประจำ ดังนั้นเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นและสถิติทั่วไปแล้วก็ต้องยอมรับว่ายากที่จะเอาชนะทีมเยือนในวันนี้ แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ยากเหมือนกัน หากจะจบด้วยผลเสมอ ขอเพียงแค่ยิงได้ 1 ลูกในเกมส์นี้ พวกเขาจะมีสิทธิ์จบเสมอทันที การเล่นในวันนี้แน่นอนเหมือนเดิมเน้นเกมส์รับ และสวนกลับไว เพรสซิ่งและเข้าบอลหนักตามสไตล์ direct football อย่างเดียววันนี้
ทีมเยือน – หงส์แดง ลิเวอร์พูล ผลงานในปีนี้กับปีที่แล้วต่างกันเหมือนฟ้ากับเหวเลยทีเดียว จากปีที่แล้วลุ้น 4 แชมป์ลงเตะ 60 นัดต่อฤฤดูกาล เข้าชิงทุกถ้วยที่ลงเตะ แม้จะได้มาแค่สองแชมป์แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นปีที่ดีมากๆๆสำหรับแฟนบอล น่าจดจำภาพการวิ่งไล่ หึกเหิม บดบี้ขยี้คู่แข่งไปตลอด 90 นาที แต่วันนี้ฤดูกาลนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป การเล่นทุกนัดเอื่อยเฉื่อย ไม่มีนัดไหนที่ลงเล่นด้วยความดุดันเลยสักนัดเดียว ฟอร์มการเล่นทำท่าว่าจะดีในช่วงก่อนปิดบอลโลก แต่พอเปิดมาเท่านั้นแหละทุกอย่างกลับเลวร้ายกว่าเดิม ความล้าจากฤดูกาลที่ผ่านมามีส่วนสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการไม่เสริมทัพในแดนกลาง คือต้องบอกว่าลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ใช้พลังในการเล่นเยอะสุดแล้วในเวทีพรีเมียร์ลีค สไตล์เฮฟวี่ เมทัล มันต้องพุ่งเข้าใส่หาคู่ต่อสู้ทุกจังหวะ จะไม่ปล่อยให้เล่นง่ายๆ จำต้องตัดฟาลว์ก็ต้องใส่ พอมองดูตอนนี้ ฟาบินโญ่ ไม่มีเค้าโครงความเป้นกลางรับระดับโลกอีกต่อไป เฮนโด้ วิ่งบดบี้อยู่ก็จริงแต่ไม่สามารถสร้างแรงกดดันอะไรได้เลย ขณะที่มีติอาโก้คนเดียวที่พอเล่นได้ พอเหลือบมาดูตัวสำรองก็ไม่มีใครแล้วที่น่าไว้ใจได้ ส่วนแดนหน้าไม่ต้องพูดถึง ซาล่าห์ฟอร์มตกอย่างจังเมื่อไม่มีมาเน่ห์ ส่วนเฟอร์มิโน่ ดิอาซ โชต้า อยู่โรงหมอ ผู้เล่นใหม่อย่าง นูนเญช และกักโป ก็ยังคงต้องปรับตัว ส่วนแดนหลังเมื่อไม่มี ฟาน ไดคจ์ ทุกอย่างก็จบ เทรนท์ อาโนลด์ ขวาผ่านตลอด โกเมซ นักเตะที่ไม่มีคลาส แถมได้ข่าวมาว่า โกนาเต้ เจ็บไปอีก 3 สัปดาห์ เมื่อลิเวอร์พูลเป็นสภาพแบบนี้แล้ว ถามว่าจะเอาไรไปชนะก่อนนนนน
11 Players
Wolves (4-3-3) – Sa – Nouri – Kilman – Toti – Semedo – Neves – Matheus – Moutinho – Podence – Cunha – Jimenez
Liverpool (4-3-3)– Allison – Robertson – Gomez – Matip – Milner – Bajcetic – Elliot – Thiago – Salah – Nunez – Gakpo
Missing Players
Wolverhampton Wanderers – Chiquinho (Cruciate Ligament Injury), Sasa Kalajdzic(Cruciate Ligament Rupture)
Liverpool FC – Arthur Melo (Surgery), Virgil van Dijk (Hamstring Injury), Luis Díaz (Knee Injury), Diogo Jota (Calf Injury)
| รายการ | ทีมพิฆาต |
|---|---|
| สเตป 3 (ชุดแรก) | อาร์เซน่อล – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - ไบร์ทตัน |
| สเตป 3 (ชุดสอง) | วูลฟ์แฮมป์ตัน – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แอสตัน วิลล่า |
| สเตป 4 | เบรนท์ฟอร์ด - อาร์เซนอล – นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ |
ทางเข้า Ufabet บริการ คาสิโนออนไลน์ แทงบอลออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์สล็อต เกมส์ยิงปลา ปลอดภัย จ่ายจริง เว็บพนันออนไลน์ หนึ่งในใจเดียวของคนทั้งประเทศ !! เปิดให้บริการ 24 ขั่วโมง Ufamm888
สมัครสมาชิก
โปรโมชั่น
ล๊อคอิน
แจ้งปัญหา