ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 เป็นกำหนดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 22 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลชายทีมชาติของทุกชาติสมาชิกฟีฟ่าที่จะจัดขึ้นทุกสี่ปี โดยครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 18 ธันวาคม 2022 นี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่จัดในโลกอาหรับ และเป็นครั้งที่สองที่จัดในทวีปเอเชียต่อจากฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งสุดท้ายที่มีทีมร่วมแข่งขัน 32 ทีม เนื่องจากจะมีการเพิ่มขึ้นเป็น 48 ทีมในฟุตบอลโลก 2026 ทีมชาติฝรั่งเศสเป็นแชมป์เก่าจากการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดในฤดูร้อนของประเทศกาตาร์ ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม ทำให้เป็นครั้งแรกที่จะไม่จัดในช่วงกลางปี โดยกรอบเวลาของการแข่งขันจะลดลงเหลือ 29 วัน

ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มวันไหน

ฟุตบอลโลก 2022 หลังจากที่เราได้บทสรุป 32 ทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขันศึก ฟุตบอลโลกปี 2022 รอบสุดท้ายกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  โดยจะเริ่มเปิดฉาก ฟาดแข้งให้กับบรรดาเหล่าแฟนบอลทั่วโลกได้ตามเชียร์ทีมโปรดกันนัดแรกตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ โดยทีมเจ้าภาพอย่างกาตาร์จะลงเตะเป็นคู่เปิดสนามเจอกับเอกวาดอร์ เป็นวันแรกแล้ว จะมีการทำการแข่งขั้นรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่ม A และ กลุ่ม B ที่เหลืออีก 3 คู่ ตามเวลาประเทศไทย ได้แก่

กลุ่ม A
1. กาตาร์ VS เอกวาดอร์  เวลา 23:00 น. อาทิตย์ 20/11/22  สนามอัล เบย์ท สเตเดียม 
2. เซเนกัล VS เนเธอร์แลนด์ เวลา 23:00 น. จันทร์ 21/11/22 สนามอัล เบย์ท สเตเดียม

กลุ่ม B
3. อังกฤษ VS อีหร่าน  เวลา 20:00 น. จันทร์ 21/11/22 สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม
4. สหรัฐอเมริการ VS เวลส์  เวลา 02:00น. อังคาร 22/11/22 สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

ฟุตบอลโลก 2022 จัดที่ไหน

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กำลังจะถูกจารึกอีกครั้งในปี 2022 แฟนบอลคงเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศความคึกคักของเทศกาลลูกหนังระดับนานาชาติที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ประเทศในแถบตะวันออกกลางอย่างกาตาร์ หลังจากครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2002 บนดินแดนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หรือเมื่อ 20 ปีก่อน

การแข่งขันจะถูกปรับมาจัดขึ้นช่วงปลายปีในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมทั้งหมด 28 วัน แทนที่ปกติซึ่งจะจัดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากต้องหลีกร้อนอากาศร้อนช่วงกลางปีที่กาตาร์นั่นเอง

โดยเจ้าภาพ กาตาร์ ได้สร้างสนาม ฟุตบอลโลก 2022 เพื่อต้อนรับแฟนบอลจากทั่วโลกถึง 8 สนาม ใน 5 เมืองของกาตาร์ ซึ่งแต่ละสนามอยู่ในรัศมี 55 กิโลเมตร จากกรุงโดฮา พร้อมด้วยขนส่งสาธารณะทั้งรถไฟฟ้าและรถรางอำนวยความสะดวกแฟนบอลให้สามารถชมแมตช์สำคัญต่าง ๆ ถูกเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันครั้งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนัดเปิดสนามจะเริ่มแข่งขันที่ สนามอัล เบย์ท สเตเดียม  วันที่ 20 พฤศจิกายน กระทั่งจบการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศที่ สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม ในวันที่ 18 ธันวาคม

เมือง

สนาม

ความจุ

ลูเซล

สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม

80,000

อัล คอร์

สนามอัล เบย์ท สเตเดียม 

60,000

โดฮา

สนามสเตเดียม 974

40,000

โดฮา

สนามอัล ธูมามา สเตเดียม

40,000

อัล รายยาน

สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

45,350

อัล รายยาน

สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

44,740

อัล รายยาน

สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม

40,000

อัล วากราห์

สนามอัล จานูบ สเตเดียม

40,000

ฟุตบอลโลก 2022 มีกี่ทีม

ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย มีทั้งหมด 32 ทีมแบ่งตามโซนทวีป ได้ดังนี้

ยุโรป (13 ทีม) – เบลเยียม, โครเอเชีย, เดนมาร์ก, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เซอร์เบีย, สเปน, สวิตเซอร์แลนด์, เวลส์
เอเชีย (6 ทีม) – กาตาร์ (เจ้าภาพ), อิหร่าน, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย
อเมริกาใต้ (4 ทีม) – อาร์เจนตินา, บราซิล, เอกวาดอร์, อุรุกวัย
แอฟริกา (5 ทีม) – แคเมอรูน, กานา, โมร็อกโก, เซเนกัล, ตูนิเซีย
คอนคาเคฟ (4 ทีม) – แคนาดา, เม็กซิโก, สหรัฐอเมริกา, คอสตาริกา 

โดยหลังจากการจับฉลากแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2022 เวลา 19:00 ที่ผ่านมาบทสรุป 32 ทีม ลุยฟุตบอลโลก 2022 ได้ดังนี้ 

กลุ่ม A : กาตาร์ (เจ้าภาพ) , เอกวาดอร์ , เซเนกัล , เนเธอร์แลนด์
กลุ่ม B : อังกฤษ , อิหร่าน , สหรัฐอเมริกา , เวลส์ 
กลุ่ม C : อาร์เจนติน่า , ซาอุดีอาระเบีย , เม็กซิโก , โปแลนด์
กลุ่ม D : ฝรั่งเศส , ออสเตรเลีย  , เดนมาร์ก , ตูนิเซีย
กลุ่ม E : สเปน , คอสตาริกา , เยอรมนี , ญี่ปุ่น
กลุ่ม F  : เบลเยียม , แคนาดา , โมร็อกโก , โครเอเชีย
กลุ่ม G : บราซิล , เซอร์เบีย , สวิตเซอร์แลนด์ , แคเมอรูน
กลุ่ม H : โปรตุเกส , กาน่า , อุรุกวัย , เกาหลีใต้

วันแข่งขัน

กลุ่ม

คู่แข่งขัน

เวลาแข่งขัน

สนาม

20 พฤศจิกายน

กลุ่ม A

กาตาร์ – เอกวาดอร์

23.00 น.

สนามอัล เบย์ท สเตเดียม

21 พฤศจิกายน

กลุ่ม B

อังกฤษ – อิหร่าน

20.00 น.

สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม

21 พฤศจิกายน

กลุ่ม A

เซเนกัล – เนเธอร์แลนด์

23.00 น.

สนามอัล ธูมามา สเตเดียม

21 พฤศจิกายน

กลุ่ม B

สหรัฐอเมริกา – เวลส์

2.00 น.

สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

22 พฤศจิกายน

กลุ่ม C

อาร์เจนตินา – ซาอุดีอาระเบีย

17.00 น.

สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม

22 พฤศจิกายน

กลุ่ม D

เดนมาร์ก – ตูนิเซีย

20.00 น.

สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

22 พฤศจิกายน

กลุ่ม C

เม็กซิโก – โปแลนด์

23.00 น.

สนามสเตเดียม 974

22 พฤศจิกายน

กลุ่ม D

ฝรั่งเศส – ออสเตรเลีย

2.00 น.

สนามอัล จานูบ สเตเดียม

23 พฤศจิกายน

กลุ่ม F

โมร็อกโก – โครเอเชีย

17.00 น.

สนามอัล เบย์ท สเตเดียม

23 พฤศจิกายน

กลุ่ม E

เยอรมัน – ญี่ปุ่น

20.00 น.

สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม

23 พฤศจิกายน

กลุ่ม E

สเปน – คอสตาริก้า

23.00 น.

สนามอัล ธูมามา สเตเดียม

23 พฤศจิกายน

กลุ่ม F

เบลเยียม – แคนาดา

2.00 น.

สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

24 พฤศจิกายน

กลุ่ม G

สวิตเซอร์แลนด์ – แคเมอรูน

17.00 น.

สนามอัล จานูบ สเตเดียม

24 พฤศจิกายน

กลุ่ม H

อุรุกวัย – เกาหลีใต้

20.00 น.

สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

24 พฤศจิกายน

กลุ่ม H

โปรตุเกส – กนานา

23.00 น.

สนามสเตเดียม 974

24 พฤศจิกายน

กลุ่ม G

บราซิล – เซอร์เบีย

2.00 น.

สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม

25 พฤศจิกายน

กลุ่ม B

เวลส์ – อิหร่าน

17.00 น.

สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

25 พฤศจิกายน

กลุ่ม A

กาตาร์ – เซเนกัล

20.00 น.

สนามอัล ธูมามา สเตเดียม

25 พฤศจิกายน

กลุ่ม A

เนเธอร์แลนด์ – เอกวาดอร์

23.00 น.

สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม

25 พฤศจิกายน

กลุ่ม B

อังกฤษ – สหรัฐอเมริกา

2.00 น.

สนามอัล เบย์ท สเตเดียม

26 พฤศจิกายน

กลุ่ม D

ตูนิเซีย – ออสเตรเลีย

17.00 น.

สนามอัล จานูบ สเตเดียม

26 พฤศจิกายน

กลุ่ม C

โปแลนด์ – ซาอุดีอาระเบีย

20.00 น.

สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

26 พฤศจิกายน

กลุ่ม D

ฝรั่งเศส – เดนมาร์ก

23.00 น.

สนามสเตเดียม 974

26 พฤศจิกายน

กลุ่ม C

อาร์เจนตินา – เม็กซิโก

2.00 น.

สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม

27 พฤศจิกายน

กลุ่ม E

ญี่ปุ่น – คอสตาริก้า

17.00 น.

สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

27 พฤศจิกายน

กลุ่ม F

เบลเยียม – โมร็อกโก

20.00 น.

สนามอัล ธูมามา สเตเดียม

27 พฤศจิกายน

กลุ่ม F

โครเอเชีย – แคนาดา

23.00 น.

สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม

27 พฤศจิกายน

กลุ่ม E

สเปน – เยอรมัน

2.00 น.

สนามอัล เบย์ท สเตเดียม

28 พฤศจิกายน

กลุ่ม G

แคเมอรูน – เซอร์เบีย

17.00 น.

สนามอัล จานูบ สเตเดียม

28 พฤศจิกายน

กลุ่ม H

เกาหลีใต้ – กานา

20.00 น.

สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

28 พฤศจิกายน

กลุ่ม G

บราซิล – สวิตเซอร์แลนด์

23.00 น.

สนามสเตเดียม 974

28 พฤศจิกายน

กลุ่ม H

โปรตุเกส – อุรุกวัย

2.00 น.

สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม

29 พฤศจิกายน

กลุ่ม A

เนเธอร์แลนด์ – กาตาร์

22.00 น.

สนามอัล เบย์ท สเตเดียม

29 พฤศจิกายน

กลุ่ม A

เอกวาดอร์ – เซเนกัล

22.00 น.

สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม

29 พฤศจิกายน

กลุ่ม B

เวลส์ – อังกฤษ

2.00 น.

สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

29 พฤศจิกายน

กลุ่ม B

อิหร่าน – สหรัฐอเมริกา

2.00 น.

สนามอัล ธูมามา สเตเดียม

30 พฤศจิกายน

กลุ่ม D

ตูนิเซีย – ฝรั่งเศส

22.00 น.

สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

30 พฤศจิกายน

กลุ่ม D

ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก

22.00 น.

สนามอัล จานูบ สเตเดียม

30 พฤศจิกายน

กลุ่ม C

โปแลนด์ – อาร์เจนตินา

2.00 น.

สนามสเตเดียม 974

30 พฤศจิกายน

กลุ่ม C

ซาอุดีอาระเบีย – เม็กซิโก

2.00 น.

สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม

1 ธันวาคม

กลุ่ม F

โครเอเชีย – เบลเยียม

22.00 น.

สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม

1 ธันวาคม

กลุ่ม F

แคนาดา – โมร็อกโก

22.00 น.

สนามอัล ธูมามา สเตเดียม

1 ธันวาคม

กลุ่ม E

ญี่ปุ่น – สเปน

2.00 น.

สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม

1 ธันวาคม

กลุ่ม E

คอสตาริก้า – เยอรมัน

2.00 น.

สนามอัล เบย์ท สเตเดียม

2 ธันวาคม

กลุ่ม H

เกาหลีใต้ – โปรตุเกส

22.00 น.

สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

2 ธันวาคม

กลุ่ม H

กานา – อุรุกวัย

22.00 น.

สนามอัล จานูบ สเตเดียม

2 ธันวาคม

กลุ่ม G

แคเมอรูน – บราซิล

2.00 น.

สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม

2 ธันวาคม

กลุ่ม G

เซอร์เบีย – สวิตเซอร์แลนด์

2.00 น.

สนามสเตเดียม 974

ฟุตบอลโลก 2022 นักเตะยอดเยี่ยม 1

ฟุตบอลโลก 2022 นักเตะยอดเยี่ยม 5 อันดับ ดาวซัลโว

ฟุตบอลโลก 2022 นักเตะยอดเยี่ยม และ 5 อันดับดาวซัลโว ทีมไหนจะคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 และใครจะเป็นผู้ทำประตูสูงสุดและคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ ซึ่งเป็นรางวัลส่วนตัวสูงสุดในการแข่งขันครั้งนี้ไปครอง อย่างที่เราทราบกันดีว่าการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลกหนนี้ มีนักเตะชื่อดังที่เป็นรู้จักทั่วโลกติดทัพเข้าร่วมชิงชัยกันอย่างมากหน้าหลายตา และเป็นที่เสียดายอย่างมากที่สตาร์นักเตะดังๆ อีกหลายคน

Read More »
Facebook

ฟุตบอลโลก 2022 Group A

Group A ประกอบไปด้วย – เจ้าภาพ การ์ต้า, เนเธอร์แลนด์, เซเนกัล, เอกวาดอร์

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ เนเธอร์แลนด์ , เซเนกัล

ทีม Qatar

Manager – Félix Sánchez Bas

แผนการเล่น – 5 – 3 – 2 / 3 – 5 – 2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Meshaal Barsham, Salah Zakaria, Saad Al-Sheeb

Defenders – Tarek Salman, Pedro Miguel, Bassam Al-Rawi, Boualem Khoukhi, Abdelkarim Hassan, Homam Ahmed, Musab Khoder, Ahmed Fadel,

Midfielders – Jassem Gaber Abdulsallam, Abdulaziz Hatem, Mohammed Waad, Mustafa Mashaal, Ali Asad, Akram Afif, Abdelrahman Moustafa, Khalid Muneer Mazeed, Hasan Al-Haydos

Forwarder – Mohammed Muntari, Ahmed Alaaeldin, Almoez Ali

รอบคัดเลือก – เข้ารอบด้วยการเป็นเจ้าภาพ

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายของบอลโลกด้วยการเป็นเจ้าภาพของการจัดปีนี้ ซึ่งต้องบอกว่าแหวกแหกทุกกฏวงการของการจัดบอลโลกมา ตั้งแต่กฏระเบียบต่างๆนาๆ และรวมถึงการเลื่อนจัดบอลโลกมาเป็นกลางปี ซึ่งเรียกว่ากระทบไปทุกลีคการแข่งขันเลยทีเดียว พี่ๆเล่นผ่ากลางแบบนี้เนื่องจากอุนหภูมิมันร้อนระอุเหลือเกิน แต่ถึงการเป็นเจ้าภาพก็หาว่าจะได้ผ่านเข้าไปเพราะมาตราฐานที่พวกเขามีมันต่างกับชาติอื่นๆ ดูแล้วคงไม่รอดจบที่รอบแรกนี่แหละ

นักเตะคนสำคัญ – ไม่ได้มีคนไหนน่ากลัว

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Senegal

Manager – Aliou Cissé

แผนการเล่น – 4 – 3 – 3 / 4 – 4 – 2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Seny Dieng, Alfred Gomis, Mory Diaw

Defenders – Kalidou Koulibaly, Moussa Niakhaté, Abdou Diallo, Pape Abou Cissé, Ismail Jakobs, Fodé Ballo-Touré, Formose Mendy

Midfielders – Pape Gueye, Nampalys Mendy, Cheikhou Kouyaté, Pape Matar Sarr, Idrissa Gueye, Pathé Ciss, Ismaïla Sarr, Krépin Diatta, Iliman Ndiaye

Forwarder – Sadio Mané, Bamba Dieng, Demba Seck, Boulaye Dia

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนแอฟริกัน

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์แอฟริกาเนชั่นคัพ 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – ผ่านอย่างมากก็แค่เข้ารอบแรกในปีนี้ แล้วก็คิดว่าน่าจะไปจอดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนค่อนข้างมาก ดาวเตะของทีมชาติมากหน้าหฃายตาที่ค้าแข็งอยู่ที่ยุโรป ซึ่งตอนนี้ถ้าดูตาม Fifa world ranking นั้นพวกเขาจัดอยู่ลำดับที่ 18 ของโลกเลยทีเดียว ฟุตบอลโลกหนนี้ก็นับว่าจับได้อยู่กลุ่มที่ไม่ยากมากนัก สภาพอากาศจากตะวันออกกลางไม่เป็นผลต่อพวกเขาอย่างแน่นอน ร้อนระอุเหมือนกัน ผลงานตอนนี้ของทีมก็ถือว่าติดลมบนอยู่เพราะสามารถคว้าแชมป์แอฟริกันเนชั่นคัพมาครองเป็นครั้งแรกได้สำเร็จสะด้วย ดาวเตะคนสำคัญก็หนีไม่พ้น ซาดิโอ มาเน่ นั่นเอง

นักเตะคนสำคัญ – ซาดิโอ มาเน่

นี่คือดาวเตะเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นความหวังสูงสุดให้กับทีมก็ว่าได้ ซาดิโอ มาเน่ ย้ายทีมจากลิเวอร์พูลไปสู่ยอดทีมจากเมืองเบียร์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ผลงานถือว่าไม่ได้ปังเท่าสมัยลิเวอร์พูล ด้วยเพราะความสำคัญของเขาเมื่อเทียบกับการอยู่ลิเวอร์พุลนั้นมันดูเข้าที่เข้าทางเข้าระบบมากกว่าไปอยู่บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งช่วงแรกๆต้องยอมรับว่าเขาลำบากพอสมควรกับการต้องมาปรับตัว แต่ตอนนี้มาเน่ถือว่าทำได้ดีทีเดียว ดังนั้นบอลโลกหนนี้มาเน่จะเป็นทีเด็ดให้กับทีมเซเนกัลได้อย่างแน่นอน ด้วยความไวความรวดเร็ว จะสร้างปัญหาให้กับคู่ต่อสู้อย่างแน่นอน

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Ecuador

Manager – Gustavo Alfaro

แผนการเล่น – 4 – 3 – 3 / 4 – 2 – 3 – 1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Moisés Ramírez, Hernán Galíndez, Gonzalo Valle

Defenders – Piero Hincapié, Jackson Porozo, William Pacho, Pervis Estupiñán, Diego Palacios, Byron Castillo, Angelo Preciado, Xavier Arreaga

Midfielders – Carlos Gruezo, Jhegson Méndez, Patrickson Delgado, Moisés Caicedo, Jeremy Sarmiento, Nilson Angulo, Anthony Valencia, Romario Ibarra, José Cifuentes

Forwarder – Michael Estrada, Enner Valencia, Enner Valencia

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนแอฟริกัน

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – ผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการเข้าเป็นที่ 4 ของโซนอเมริกาใต้ นี่ถือว่าเป็นทีมพลังหนุ่มที่น่าจับตามองเหมือนกันสำหรับฟุตบอลโลกรอบนี้ เพราะพวกเขามีค่าอายุเฉลี่ยเพียงแค่ 24 เท่านั้นเอง ซึ่งที่น่าจับตามองคือดาวรุ่งแดนกลาง มอยเซส ไคเซโด้ ที่สังกัดอยู่ทีมไบร์ทตั้น เป็นกองกลางตัวขับเคลื่อนที่เชื่อว่าจะเป็นแรงกระตุ้นในแดนกลางของทีมได้เป็นอย่างดี การขับเคี่ยวในกรุ๊ปนี้ก็จะมีเอกวาดอร์นี่แหละที่จะมาเป็นม้ามืดอาจพลิกโผเข้ารอบเป็นอันดับสองก็ได้

นักเตะคนสำคัญ – มอยเซส ไคเซโด้

ก็ต้องบอกว่านี่เป็นกองกลาง box to box ดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนนึงของยุโรปเลยก็ว่าได้ เพราะขับเคลื่อนแดนกลางได้ดีเหลือเกิน ทั้งการแย่งบอลตัดบอลทำได้ดีไม่มีที่ติ อีกทั้งการเติมเกมส์เล่นเกมส์รุกก็ยังทำได้ดีมากๆอีกต่างหาก ดังนั้นเชื่อว่าปีนี้แหละ เขาจะสามารถแจ้งเกิดได้ในบอลโลกปีนี้ทุกทีมจะต้องจับตามองเขาอย่างแน่นอน

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Netherlands

Manager – Louis van Gaal

แผนการเล่น – 3 – 4 – 3 / 3 – 5 – 2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Mark Flekken, Jasper Cillessen, Kjell Scherpen

Defenders – Matthijs de Ligt, Jurrien Timber, Virgil Van Dijk, Stefan de Vrij, Nathan Ake, Tyrell Malacia, Hans Hateboer, Jordan Teze

Midfielders – Frenkie de Jong, Denzel Dumfries, Teun Koopmeiners, Jerdy Schouten, Davy Klaassen, Guus Til, Steven Berghuis

Forwarder – Steven Bergwijn, Memphis Depay, Noa Lang, Cody Gakpo, Wout Weghorst

รอบคัดเลือก – ผ่านรอบคัดเลือกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม G

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์ยูโร 1987-88 (1 สมัย)

ความสำเร็จในบอลโลก – ทีมเนเธอร์แลนด์ ผู้ก่อกำเนิด Total football ที่เน้นเกมส์รุกเป็นหลัก ผู้เล่นสามารถสลับปรับเปลี่ยนผสมผสานการรุกและรับเข้าด้วยกัน มีความยืดหยุ่นในเกมส์รุกและรับสูง เนเธอร์แลนด์ถือว่าเป็นเจ้าประจำของบอลโลกทุกๆรอบ แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์บอลโลกสักครั้งนึง สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการคว้ารองแชมป์บอลโลก ซึ่งก็ต้องย้อนไปในปี 2009-2010 และที่สามในปี 2013-14 ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำได้สูงสุดแล้วในรอบฟุตบอลโลกที่ผ่านมา และไม่ใช่แค่บอลโลกที่ผ่านมาแต่เนเธอร์แลนด์ไม่เคยประสบความสำเร็จในรายการนานาชาติเลย ถ้วยใบสุดท้ายในรายการนานาชาติคือแชมป์ยูโรในปี 1987/88 ซึ่งผ่านมาจนคนลืมไปหมดแล้ว ปีนี้ความคาดหวังก็พอมีเพียงแต่ศักยภาพทีมไม่ได้ดูพร้อมขนาดนั้น ซึ่งหากดูจากรายชื่อนักเตะแล้ว ต้องบอกว่า แนวรับและแดนกลางถือว่าดูดีและพึ่งพาได้ เพียงแต่แนวรุกที่ไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่นัก ยังดีที่รอบแบ่งกลุ่มนี้พวกเขาไม่ได้อยู่กับกลุ่มที่อันตรายมากมายนัก

นักเตะคนสำคัญ – เวอร์จิล ฟาน ไดคจ์ และ แฟรงค์กี้ เดอ ยอง

แข้งคนสำคัญรายแรก เวอร์จิล ฟาน ไดคจ์ คงไม่ต้องบอกแล้วว่า เขามีความสำคัญในแง่ไหน เพราะนี่คือประการหลังคนสำคัญของเนเธอร์แลนด์และของลิเวอร์พูล ฟาน ไดคจ์ พิสูจน์ความแข็งแกร่งมาแล้วในทุกรายการการแข่งขัน ดังนั้นแน่นอนว่าหากเกมส์รับเหนียวแน่น เกมส์รุกก็ค่อนข้างที่จะสบายใจในการเล่นบอลบุกได้ เพราะฉะนั้นเฮียมองว่า ความสำเร็จในปีนี้ของ เนเธอร์แลนด์ จะอยู่ที่การบัญชาเกมส์ของแนวรับคนนี้นี่แหละ ในรายที่สอง แฟรงค์กี้ เดอ ยอง จอมทัพของบาร์เซโลน่า ซึ่งไม่รู้ว่า วันที่เตะบอลโลกจะย้ายทีมไปรึยัง ในรายของเดอ ยอง ต้องบอกว่าครบเครื่องเรื่องรสชาติจริงๆ ทั้งรับและรุก การรุกของเขาไม่ได้พุ่งวิ่งลากเลื้อย แต่มันเกิดจากการจ่ายบอลที่ชาญฉลาดของเขา การจ่ายบอลแนวลึก การคุมจังหวะในการบุกและรับให้ทุกอย่างมันพอดี ดังนั้นหากจะพูดถึงความสำเร็จก็ต้องฝากไว้ที่ 2 คนนี้แหละที่จะประคองทีมให้เข้ารอบลึกๆได้ แต่เฮียเชื่อว่ายังไม่ก้าวไปถึงขั้นแชมป์

จัดอันดับ – เต็ง 6 ของปีนี้

Facebook

ฟุตบอลโลก 2022 Group B

Group B ประกอบไปด้วย – อังกฤษ, อิหร่าน, อเมริกา, เวลส์

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ อังกฤษ และ เวลส์

ทีม England

Manager – Gareth Southgate

แผนการเล่น – 3 – 4 – 3 / 3 – 4 – 2 – 1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Aaron Ramsdale, Dean Henderson, Nick Pope

Defenders – Eric Dier, John Stones, Fikayo Tomori, Marc Guéhi, Ben Chilwell, Luke Shaw, Trent Alexander-Arnold, Kieran Trippier, Harry Maguire,

Midfielders – Declan Rice, Jude Bellingham, Jordan Henderson, Phil Foden, , Bukayo Saka, Jarrod Bowen, Mason Mount, Jack Grealish

Forwarder – Harry Kane, Ivan Toney, Raheem Sterling

รอบคัดเลือก – ผ่านรอบคัดเลือกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม I

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์ World Cup 1965/1966, รองแชมป์ยูโร 2020/2021

ความสำเร็จในบอลโลก – ทีมชาติอังกฤษ จัดว่าเป็นยักษ์หลับมาแต่ไหนแต่ไร เรียกได้ว่าเป็นไม้ประดับที่สวยงามทีมหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่ก็ผ่านเข้ารอบไปได้ตลอดแต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงไหน ถ้าพูดถึงเรื่องดาวดังที่รู้จักกัน อังกฤษถือเป็นอีกชาติที่คนักเตะทุกคนจะเป็นที่รู้จัก เนื่องก็ด้วยจากลีคการแข่งขันที่มีมูลค่าสูงที่สุดนั่นเอง บอลโลกหนนี้แน่นอนว่าอังกฤษจะขาด รีซ เจมส์ ไคล์ วอล์เกอร์ และ คาลวิน ฟิลลิปป์ ถือว่าเป็นสามผู้เล่นที่สำคัญกับทีมมากทีเดียว ปีนี้ถ้าดูรายชื่อโดยรวมก็ต้องบอกว่าอังกฤษผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้แบบสบายแน่นอน แม้ว่าฟอร์มการเล่นใน Nation League จะห่วยบรมบัดซบก็ตามแต่ แต่ถึงยังไงพวกเขาอยู่กรุ๊ปไม่ยาก ดังนั้นฉลุยและคิดว่าน่าจะไปจอดอย่างเต็มที่ก็รอบ 4 ทีมสุดท้าย ดังนั้นเฮียจัดให้อังกฤษเป็นเต็ง 4 ในปีนี้

นักเตะคนสำคัญ – Bukayo Saka, Phil Foden, Harry Kane

ให้สามคน เพราะจะจัดว่าเป็นสามประสานแนวรุกที่สำคัญในการพาทีมชาติอังกฤษไปให้ไกลที่สุด แน่นอนว่ากัปตันทีมอย่างแฮรี่ เคน จะมีหน้าที่ทั้งถล่มตะข่ายและพักบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมสอดแทรกไปยิง แฮรี่ เคน นอกจากจบคมแล้วจังหวะการจ่ายต้องบอกว่าสุดติ่งอีกต่างหาก ซึ่งทั้ง ซาโก้ และโฟเด้นเอง มีความสามารถในการทะลุทะลวงได้ดี อีกทั้งทั้งคู่ความไวต้องบอกว่าไวเป็นกรดเลย สปีดต้น ปละการเลี้ยงกินตัวนี่หาตัวจับได้ยาก และแน่นอนว่าหาก 3 ประสานทำงานลงตัว ก็มาดิคราบ จะใครก็ได้ ไม่มีกลัว

จัดอันดับ – เต็ง 4 ของปีนี้

ทีม Iran

Manager – Carlos Queiroz

แผนการเล่น – 4 – 1 – 4 – 1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Alireza Beiranvand, Amir Abedzadeh, Alireza Beiranvand

Defenders – Majid Hosseini, Hossein Kanaani, Morteza Pouraliganji, Armin Sohrabian, Milad Mohammadi, Ehsan Hajsafi, Ramin Rezaeian, Sadegh Moharrami,

Midfielders – Milad Sarlak, Roozbeh Cheshmi, Saeid Ezatolahi, Ahmad Nourollahi, Mohammad Khodabandelou, Ali Karimi, Saman Ghoddos, Mehdi Torabi, Alireza Jahanbakhsh, Ali Gholizadeh

Forwarder – Mehdi Taremi, Karim Ansarifard

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนเอเชีย

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์เอเชี่ยนคัพ 3 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – ผ่านเข้ารอบบอลโลกมาจากการคัดเลือโซนเอเชีย ปัญหาตอนนี้ที่มีคือการขาด ซาร์ดาห์ อัซมูน ไปในบอลโลกหนนี้เนื่องจากยังมีปัญหาจากกล้ามเนื้อต้นขาฉีก ยังอยู่ในระยะเวลาการรักษาฟื้นตัว ทำให้เดอะแบกต้องตกไปที่ เมดิห์ ตาเรมี่ ที่สังกัดอยู่กับปอร์โต้ เอฟซี ในขณะนี้ นอกนั้นที่พอจะได้ยินชื่ออย่างเช่น อาลี  คาริมี่ ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ฟอร์มจัดจ้านอีกต่อไป ดูทรงนี่ก็เป็นไม้ประดับที่แจกแต้มสำหรับกรุ๊ปนี้ก็ว่าได้

นักเตะคนสำคัญ – Mehdi Taremi

กองหน้าคนสำคัญของทั้งเอฟซี ปอร์โต้ และทีมชาติอิหร่านที่ต้องบอกว่าบอลโลกหนนี้เค้าต้องทำหน้าที่แบกทีมอยู่คนเดียวแน่นอน ตอนนี้ตาเรมี่ลงเล่นให้ปอร์โต้ไปแล้วทั้งสิ้น 17 นัดในฤดูกาลนี้ ยิงประตูให้กับทีมไปทั้งสิ้น 12 ประตู ซึ่ง 5 ประตูนั้นเกิดจากการลงเล่นใน UCL สะด้วย แถมพาทีมเข้ารอบต่อไปได้อีกต่างหาก แถมเป็นที่หนึ่งของกลุ่มสะด้วย ฟอร์มกำลังดีต้อนรับบอลโลกพอดีเลย แต่น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมไม่ได้เจิดจรัสเหมือนเขา ทำให้กรเล่นในนามทีมชาติอาจจะไม่ปังเท่าที่ควรจะเป็น แต่ก็เป็นอีกเวทีที่จะช่วยให้เขาในเฉิดฉายก็เป็นได้

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม USA

Manager – Gregg Berhalter

แผนการเล่น – 4 – 3 – 3 / 4 – 2 – 3 – 1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Matt Turner, Sean Johnson, Ethan Horvath

Defenders – Mark McKenzie, Walker Zimmerman, Aaron Long, Erik Palmer-Brown, Sam Vines, Sergiño Dest, Reggie Cannon, Joe Scally

Midfielders – Tyler Adams, Kellyn Acosta, Luca de la Torre, Johnny, Giovanni Reyna, Brenden Aaronson, Malik Tillman, Jordan Morris, Paul Arriola

Forwarder – Jesús Ferreira, Pulisic, Josh Sargent

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนคอนคาเคฟ กรุ๊ปที่ 1

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – 7-times Gold Cup winner, 1 time Concacaf Nation League

ความสำเร็จในบอลโลก – กว่าจะผ่านเข้ารอบบอลโลกมาได้ต้องบอกว่าระส่ำระส่ายมาพอสมควร แต้มเท่ากับที่ 4 อย่างคอสตาริก้า ดีที่ HTH ดีกว่าและลูกได้สียก็ดีกว่าเลยไม่ต้องไปเพลย์ออฟ ไม่งั้นก็เหนื่อยอีกรอบ ปีนี้ก็คงเหมือนทุกรอบที่ผ่านมา แม้ผู้คนจะเยอะแต่ความนิยมฟุตบอลในอเมริกายังไม่เทียบเท่าพวก NBA หรือ Baseball ดาวเตะยังไม่ค่อยมีใครมาแจ้งเกิดที่จะผลักดันทีมชาติไปด้านหน้า ลีคในประเทศก็ยังไม่แข็งแกร่ง ส่วนใหญ่พวกดาวดังที่ไปเล่นก็บั้นปลายอาชีพทั้งนั้น มันก็เลยไม่ได้ยกระดับมาจราฐานของลีค ทำให้ก็กระทบต่อทีมชาติเหมือนกัน ตอนนี้ดาวดังที่เลื้อยตูดไปค้าแข็งนอกประเทศ ก็ยังไม่มีใครสามารถการันตีตัวจริงในทีมได้เลยสักคน ก็ชัดเจนครับแบบนี้ คงจอดที่รอบแบ่งกลุ่มนี่แหละ

นักเตะคนสำคัญ – Giovanni Reyna, Brenden Aaronson, Pulisic

นี่คือสองสามพระกาฬที่จะเป็นแนวรุกในปีนี้ของอเมริกาก็ว่าได้ เรย์น่า ค้าแข้งอยู่กับเสือเหลือง ดอร์ตมุนด์ อีก 2 รายที่เหลือก็อยู่กับลีดส์ และ เชลซี ตามลำดับ คือถ้าดูชีวิตการค้าแข้งของทั้งสามคนก็ต้องบอกว่า อาร์รอนสัน มีแววมากสุดเพราะได้ลงเล่นบ่อยสุด ส่วนอีก 2 รายนั้นยังเป็นแนวโรเตชั่นอยู่เลย ดังนั้นต้องดูว่าการไม่ค่อยได้ลงเล่นจะมีอุปสรรคกับทีมรึเปล่า อย่างในรายของเรย์น่ามีค่าเฉลี่ยการลงสนามเป็นตัวจริงกับเสือเหลืองแค่ 8% เท่านั้นเอง ก็น่าเป็นกังวล หากลงจริงๆแน่นอนความฟิตและความสม่ำเสมอจะทำได้ดีขนาดไหน ส่วนพูลิซิซ  ก็อย่างที่เห็นเดี๋ยวลง เดี๋ยวเจ็บ เพราะฉะนั้นดูแล้วหากสามประสานแนวรุกทั้งสามทำผลงานได้ไม่ดี ดังนั้นอเมริกาก็น่าจะจอดในรอบแบ่งกลุ่มนี้นี่เอง

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Wales

Manager – Robert Page

แผนการเล่น – 3 – 4 – 2 – 1 / 3 – 5 – 2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Danny Ward, Wayne Hennessey, Tom King

Defenders –  Ethan Ampadu, Joe Rodon, Ben Cabango, Chris Mepham, Rhys Norrington-Davies, Neco Williams, Connor Roberts, Chris Gunter,

Midfielders – Matt Smith, Dylan Levitt, Joe Morrell, Jonathan Williams, Luke Harris, Daniel James, Sorba Thomas, Gareth Bale, Rabbi Matondo

Forwarder – Kieffer Moore, Brennan Johnson, Tyler Roberts

รอบคัดเลือก – เข้ารอบด้วยการเพลย์ออฟ

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – นี่เป็นอีกทีมที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบนี้มีกระท่อนกระแท่น แต่ที่ให้เป็นเต็ง 2 ของกลุ่มก็เพราะ ดูภาพรวมแล้วพวกเขายังมีดีกว่าทีมอื่นในกลุ่มที่นอกเหนือจากอังกฤษ เนื่องจากนักเตะส่วนใหญ่ก็เล่นอยู่ในเวทียุโรปไล่ไปตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า ปีนี้ต้องดูว่าแกเร็ธ เบล ยังมีสภาพไหวอยู่รึเปล่า แน่นอนว่ารอบนี้จะเป็นบอลโลกหนสุดท้ายของเขา แต่ปัญหาการบาดเจ็บอาจจะทำให้เค้าหลุดชื่อ 23 คนสุดท้ายไปได้ ภาพโดยรวมของทีมก็ยังพอดูได้ แม้ว่าจะเข้ารอบมาแบบหืดขึ้นคอด้วยการเพลย์ออฟชนะ ยูเครน 1-0 คิดว่าปีนี้ผ่านเข้ารอบไปได้ต่อแต่จอดรอบ 16 ทีมนี่แหละ

นักเตะคนสำคัญ – Kieffer Moore

นี่เป็นนักเตะที่แนวโป้งเดียวจอด หลังๆมานี่ก็คมใช้ได้เลย เหมือนจะลงล็อคมากขึ้น ก็เพิ่งจะยิงได้นี่แหละ แต่บอลโลกเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้เสมอ เขามีรูปร่างสูงใหญ่ถึง 195 cm เลยนะครับ ลูกกลางอากาศก็ถือว่าเป็นจุดเด่นของทีมชาติเวลล์ ดังนั้นไม่ต้องอะไรมาก เตะยาวๆ รับให้แน่น เน้นลูกเซ็ตพีช คีฟเฟอร์ มัวร์จัดให้ได้อย่างแน่นอนครับ

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

Facebook

ฟุตบอลโลก 2022 Group C

Group C ประกอบไปด้วย – อาร์เจนติน่า, โปแลนด์, ซาอุดิ อาระเบีย, แม็กซิโก

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ อาร์เจนติน่า, โปแลนด์

ทีม Argentina

Manager – Lionel Scaloni

แผนการเล่น – 4 – 3 – 3 / 4 – 4 – 2  

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Emiliano Martínez, Gerónimo Rulli, Franco Armani

Defenders – Lisandro Martínez, Facundo Medina, Nehuén Pérez, Germán Pezzella, Nicolás Tagliafico, Nahuel Molina, Gonzalo Montiel, Guido Rodríguez

Midfielders – Rodrigo de Paul, Enzo Fernández, Alexis Mac Allister, Thiago Almada, Papu Gómez, Ángel Correa, Ángel Di María, Leandro Paredes

Forwarder – Lionel Messi, Joaquín Correa, Lautaro Martínez, Julián Álvarez

รอบคัดเลือก – อันดับสอง รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์ World Cup 2 สมัย, แชมป์โคป้า อเมริกา 15 สมัย, แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่น 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – ต้องบอกว่าปีนี้ จะเป็นปีที่น่าตื่นตาตื่นใจของอาร์เจนติน่าอย่างแน่นอน เพราะว่า จะเป็นปีสุดท้ายของเมสซี่แล้วนะครับ ตอนนี้ต้องบอกว่าความพร้อมของอาร์เจนติน่า ค่อนข้างเพรียบพร้อมมากเลยทีเดียว เมสซี่เองก็จัดว่าอยู่ในฟอร์มที่เกินจะเอื้อมแล้ว อีกทั้งพวกเขายังมีดาวรุ่งมากมายในทีมทั้ง จูเลี่ยน อัลวาเลซ เธียโก้ อัลมาด้า อีกทั้งตัวหลักก็ไม่ได้โรยลาขนาดนั้น ปีนี้เดาได้ว่พวกเขาน่าจะทะลุไปถึงรอบ 4 ทีมอย่างแน่นอน ดังนั้นเฮียวางให้เป็นเต็ง 3 ของปีนี้เลยจ้า

นักเตะคนสำคัญ – Lionel Messi

คงไม่ต้องสาธยายอะไรมากมายกับดาวเตะผุ้นี้ สวรรค์ส่งมาเพื่อให้ลงเล่นฟุตบอลอย่างเดียวจริงๆ รูปร่างเล็กไม่เป็นอุปสรรคสำหรับชายคนนี้ การพุ่งไปข้างหน้าไปกับบอล รวดเร็วคล่องแคล่วจากวันแรกที่ลงเตะ จนถึงตอนนี้ก็ยังคงรักษาความสุดยอดไว้ได้ดั่งเดิม ยังนึกไม่ออกว่าเมสซี่มีช่วงเวลาฟอร์มตกบ้างหรือไม่ อายุไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเขา เซนส์บอลต้องบอกว่าโคตรจะบ้า ลูกยิงก็คม การจ่ายบอล วิชชั่นในการมองก็ยังเฉียบขาดอีกต่างหาก ดังนั้นบอกได้เลยว่าปีนี้แหละได้ลุ้น โลกต้องจรดจำ เมสซี่ ไปอีกนาน เท้าซ้ายที่พาบอลไปข้างหน้าด้วยความไว บอลไม่ห่างเท้าเลยสักนิด ยังไม่แน่ใจว่าหากหมดยุคเขาไปใครจะก้าวมาแทนที่ได้ดั่งเขาคนนี้

จัดอันดับ – เต็ง 3 ของปีนี้

ทีม Saudi Aribia

Manager – Hervé Renard

แผนการเล่น – 4 – 3 – 3 / 4 – 2 – 3 – 1  

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Mohammed Al-Rubaie, Nawaf Al-Aqidi, Amin Al-Bukhari

Defenders – Hassan Tambakti, Ali Al-Boleahi, Yasser Al-Shahrani, Ahmed Bamsaud, Sultan Al-Ghannam, Mohammed Al-Burayk, Saud Abdulhamid, Ali Al-Hassan, Abdullah Madu

Midfielders – Mohamed Kanno, Salman Al-Faraj, Abdulelah Al-Malki, Salem Al-Dawsari, Abdulrahman Al-Obood, Hattan Bahebri, Ayman Yahya, Sami Al-Najei

Forwarder – Saleh Al-Shehri, Firas Al-Buraikan, Abdullah Al-Hamdan

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนเอเชีย

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์เอเชี่ยนคัพ 3 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – ผ่านเข้ารอบบอลโลกมาจากการคัดเลือโซนเอเชีย ไม่มีอะไรให้น่าติดตามมากนัก ดาวเตะส่วนใหญ่ก็ตามในลีคบ้านเกิด บอลโลกปีนี้ได้เปรียบต้องที่เล่นในแถบตะวันออกกลางซึ่งความร้อนระอุก็ค่อนข้างใหล้เคียงกันกับประเทศของพวกเขาเอง ดังนั้นความเคยชินด้วยการเล่นบอลที่อุณหภูมิสูงๆ ไม่เป็นอุปสรรคสำหับพวกเขาเอง แต่ดูแล้วก็คงมาได้แค่ถึงรอบแบ่งกลุ่มนี่แหละ ตกรอบไปในที่สุดอย่างแน่นอน 1 ในทีมแจกแต้มอีก 1 ทีม

นักเตะคนสำคัญ – ไม่มี

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Mexico

Manager – Gerardo Martino

แผนการเล่น – 4 – 3 – 3  

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Guillermo Ochoa, Rodolfo Cota, Alfredo Talavera

Defenders –  César Montes, Johan Vásquez, Néstor Araújo, Héctor Moreno, Jesús Angulo, Jesús Gallardo, Kevin Álvarez,   Jorge Sánchez

Midfielders – Edson Álvarez, Luis Chávez, Carlos Rodríguez, Érick Sánchez, Érick Gutiérrez, Alexis Vega, Hirving Lozano, Roberto Alvarado, Uriel Antuna, Diego Lainez

Forwarder – Henry Martín, Santiago Giménez

รอบคัดเลือก – เข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มโซนคอนคาเคฟ

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – คิดว่าปีนี้น่าจะเป็นทีมที่น่าจับตาดูในกลุ่มนี้นะครับ น่าจะเป้นทีมที่ขับเคี่ยวแย่งเข้ารอบกับทางโปแลนด์ได้ ซึ่งก็จัดได้ว่าเป็นไปได้เหมือนกัน 50/50 เพราะเม็กซิโกนั้นขึ้นชื่อเรื่องการวิ่งล้างผลาญทำลายล้าง เรียกว่าดุดันละกัน เข้าบอลหนัก และเป็นทีมที่เล่นลูกบนพื้นได้อย่างดีเยี่ยม นักเตะส่วนใหญ่ในชุดนี้ก็เล่นอยู่ในลีคยุโรปแทบทั้งนั้น ทั้งโปรตุกีส ฮอลแลนด์ สเปน อิตาลี ดังนั้นเรื่องประสบการ์ณไม่มีอะไรให้น่าห่วง แต่ก็คาดการ์ณว่าไม่น่าจะผ่านโปแลนด์ได้ ถึงผ่านเข้ารอบไปได้ก็ไม่วายจะล่วงรอบ 16 ทีมสุดท้ายอยู่ดี

นักเตะคนสำคัญ – Hirving Lozano

นี่จัดว่าเป็นนักเตะที่เป็นแกนหลักของทีมชาติมาตั้งแต่วัยละอ่อน จนตอนนี้ปาเข้าไปวัยหนุ่มเต็มพิกัดแล้ว 27 ขวบปี สังกัดอยู่กับนาโปลี แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ตัวจริงอีกต่อไปก็เมื่อดันไปเจอกับการแย่งชิงตำแหน่งกับดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ควาสเคเรีย ก็ต้องยอมมอบให้เขาไป แต่ด้วยพื้นฐานของโลซาโน่ก็ต้องบอกว่าเป็นคนที่ไปกับบอลได้ดี มีความไวอีกทั้งทักษะก็ยังน่าจับตามอง ลงเล่นเรียกเสียงฮือฮาได้ เพียงแต่ชอบประสบกับการบาดเจ็บอยู่เป็นประจำ เลยทำให้ไม่ค่อยพัฒนาสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องถือว่ายังเป็นคนที่อันตรายที่สุดของเม็กซิโกอยู่ดี

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Poland

Manager – Czeslaw Michniewicz

แผนการเล่น – 4 – 3 – 3 / 4 – 2 – 3 – 1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Wojciech Szczesny, Bartlomiej Dragowski, Lukasz Skorupski

Defenders – Jan Bednarek, Jakub Kiwior, Mateusz Wieteska, Bartosz Bereszynski, Robert Gumny, Kamil Glik, Grzegorz Krychowiak, Jakub Piotrowski

Midfielders – Szymon Zurkowski, Karol Linetty, Mateusz Klich, Mateusz Legowski, Przemyslaw Frankowski, Nicola Zalewski, Piotr Zielinski, Sebastian Szymanski, Jakub Kaminski

Forwarder – Robert Lewandowski, Arkadiusz Milik, Krzysztof Piatek

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากการเล่นเพลย์ออฟ

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – ผ่านเข้ารอบมาด้วยการเอาชนะ สวีเดน ไปได้ คุณภาพของทีมก็ยังจัดว่า 50/50 ที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าเทียบดูกับทีมอื่นนอกเหนือจากอาร์เจนติน่าแล้ว พวกเขาไม่ได้เป็นรองเลยนะครับ แถมดูดีกว่าอีกต่างหาก ดาวเตะส่วนใหญ่ลงเล่นในเวทียุโรปทั้งนั้น นำโดยกัปตันทีมโคตรดาวยิงอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่อายุอานามปาไป 34 แล้วแต่ยังฟอร์มสดฮอตเหมือนวัย 27 ส่วนในรายอื่นๆก็จัดว่าเป็นดาวเตะคนสำคัญของทีมแทยทั้งนั้น ดูแล้วปีนี้น่าจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้เพราะไม่ได้อยู่ในสายแข็งอะไร แต่คงไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก จอดที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอน

นักเตะคนสำคัญ – Robert Lewandowski

เพชรฆาตร ดาวยิงคนสำคัญของทั้งทีมชาติ โปแลนด์และ บาร์เซโลน่า ตอนนี้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ลงสนามไปแล้วทั้งสิ้น 17 นัดในสีเสื้อเลือดหมูของบาร์เซโลน่า ยิงไปแล้วทั้งสิ้น 18 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ ต้องบอกว่าเขาเป็นกองหน้าที่ติดท๊อปทรีของจริง เพราะอย่าลืมว่าบาร์ซ่าชุดนี้ไม่ได้อยู่ในจุดที่แข็งแกร่งดั่งแต่ก่อน ไม่ได้มีคนป้อนบอลให้ยิงมากมายนัก แต่ต้องบอกว่า เลวาน มักจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในโซนพื้นที่อันตรายได้อย่างสม่ำเสมอ จนทำให้เขายิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ต้องบอกว่าบอลโลกหนนี้ก็จะเป็นรอบสุดท้ายของเขาเช่นกัน และแน่นอนว่า เขาจะจารึกด้วยการยิงประตูส่งท้ายให้กับตัวเขาเองได้อย่างแน่นอน

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

Facebook

ฟุตบอลโลก 2022 Group D

Group D ประกอบไปด้วย – ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนิเซีย

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ ฝรั่งเศส, เดนมาร์ค

ทีม France

Manager – Didier Deschamps

แผนการเล่น – 3-4-1-2 / 4-4-2  

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers –  Alban Lafont, Alphonse Areola, Steve Mandanda

Defenders – William Saliba, Dayot Upamecano, Raphaël Varane, Benoît Badiashile, Ferland Mendy, Adrien Truffert, Benjamin Pavard, Jules Koundé

Midfielders – Aurélien Tchouameni, Eduardo Camavinga, Mattéo Guendouzi, Youssouf Fofana, Ousmane Dembélé, Christopher Nkunku, Jordan Veretout, Jonathan Clauss

Forwarder – Antoine Griezmann, Kylian Mbappé, Randal Kolo Muani, Olivier Giroud

รอบคัดเลือก – อันดับหนึ่งของกลุ่ม D ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์ World Cup 2 สมัย, แชมป์ยุโรป 2 สมัย, แชมป์ยูฟ่าเนชั่นลีค 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – ต้องบอกว่าเป็นบอลโลกที่น่าติดตามทีมชาติฝรั่งเศสเป็นพิเศษนะครับ แม้ว่าในรายการยูฟ่าเนชั่นลีคในปีนี้ผลงานจะออกไปทางย่ำแย่ก็ตาม แต่ก็ต้องบอกว่าดาวเตะแต่ละคนจัดว่ากำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่รุ่งโรจน์เลยไล่ตั้งแต่กองหลัง กองกลาง และกองหน้า ต่างกำลังเด็ดสะระตรี่ทั้งนั้นเลย เฮียเลยจัดให้เป็นอันดับสองของเต็งแชมป์ปีนี้ไปเลย ที่ไม่ได้เต็งหนึ่งไม่ใช่เพราะดาวเตะแต่ละคนไม่ดี เพียงแต่ประสบการ์ณยังไม่เจนจัดแค่นั้นเอง แต่โดยรวมต้องบอกว่าปีนี้ฝรั่งเศสน่ากลัวมากทีเดียว และแน่นอนว่าพวกเขาน่าจะเข้าไปตัดเชือกไฟนอลได้ เป้าหมายมีถึงแน่นอน

นักเตะคนสำคัญ – Kylan Mbappe

ท่านนินจาเต่า คีเลียน เอ็มปัปเป้ หรือหลายคนเรียกว่าท่านประธาน ต้องบอกว่าเป้นนักเตะคนต่อไปที่จะขึ้นมาทาบทั้งโรนัลโด้และเมสซี่ ความไวแม่งแบบเหนือๆ จังหวะจบสกอร์ก็โคตรคม ปีนี้ลงเล่นไป 18 นัด ยิงไป 18 ประตู กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มแบบสุดๆ จังหวะการกระชากของเขานี่เปรี้ยงเดียวหาย หากกองหลังเผลอเช็คไลน์ไม่ดีโดนแน่ หายห่วงบอกเลย เขาจัดว่าเป็นหนึ่งในนักตะที่ฝีตีนสับเท้าได้ไวที่สุดคนนึงของโลกเลยทีเดียว และแน่นอนว่าบอลโลกปีนี้ถึงเวลาแล้วแหละที่เขาจะได้เฉิดฉายอย่างเต็มที่ ไม่แน่เหมือนกันปีหน้าบัลลงดอร์อาจจะตกมาอยู่ในมือเขาก็เป็นได้นะครัย

จัดอันดับ – เต็ง 2 ของปีนี้

ทีม Australia

Manager – Graham Arnold

แผนการเล่น – 4-2-3-1/ 4-4-2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Mathew Ryan, Mitchell Langerak, Andrew Redmayne

Defenders – Milos Degenek, Trent Sainsbury, Harrison Delbridge, Thomas Deng, Aziz Behich, Joel King, Nathaniel Atkinson, Fran Karacic

Midfielders – Connor Metcalfe, Cammy Devlin, Aaron Mooy, Jackson Irvine, Riley McGree, Denis Genreau, Mathew Leckie, Marco Tilio, Martin Boyle

Forwarder – Mitchell Duke, Adam Taggart, Jamie Maclaren

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนเอเชีย

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – ต้องเรียนตามตรงว่า ออสเตรเลีย นั้นนักเตะแต่ละคนก็ดูแล้ว ไม่น่าจะไปรอดเลยจริงๆ ไม่มีทีเด็ดใดๆเลยสักคนเดียว นักเตะส่วนใหญ่ก็ค้าแข้งอยู่ในลีคของตัวเองนั่นแหละ ก็คิดว่าคงไม่รอดพ้นอันดับ 3-4 ของกลุ่มเป็นแน่แท้ แน่นอนว่าบอลสไตล์พวกเขาคือการบอมบ์และบอมบ์ ไปในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น นอกนั้นไม่มีอะไรให้น่ากลัว เป็นทีมแจกแต้มในกรุ๊ปนี้ มีความอู๊ดดี้น่าจะพอๆกับตูนิเซียก็ว่าได้ ตกรอบแน่นอน ไม่ต้องคิดมาก

นักเตะคนสำคัญ – ไม่มี

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Denmark

Manager – Kasper Hjulmand

แผนการเล่น – 4-2-3-1/ 3-4-1-2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Oliver Christensen, Frederik Rönnow, Kasper Schmeichel

Defenders – Andreas Christensen, Joachim Andersen, Simon Kjaer, Victor Nelsson, Joakim Maehle, Rasmus Kristensen, Alexander Bah, Jens Stryger Larsen

Midfielders – Pierre-Emile Höjbjerg, Philip Billing, Mathias Jensen, Thomas Delaney, Daniel Wass, Christian Eriksen, Andreas Skov Olsen, Jesper Lindström, Mikkel Damsgaard,

Forwarder – Kasper Dolberg, Rasmus Höjlund, Andreas Cornelius

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม F

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์ยุโรป 1 สมัย, แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – หากจะบอกว่าปีนี้เดนมาร์กมีนักเตะที่น่าจับตามองมากที่สุด มากกว่าหลายๆปีที่ผ่านมาก็เป็นได้ หลังจากหมดยุคคู่พี่น้อง ไบรอัน และไมเคิ่ล เลาดรุปต์ เดนมาร์กก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่แข็งแกร่งอีกเช่นเคย บอลโลกรอบนี้ต้องบอกว่าจุดเด่นของเดนมาร์กไม่ได้อยู่ที่นักเตะคนใดคนนึง แต่จะบอกว่านักเตะทุกคนตอนนี้ต่างกำลังทำผลงานกับสโมสรได้ดี เมื่อได้รับโอกาสในการลงเล่น เดนมาร์กชุดนี้เล่นกันมาค่อนข้างนาน ค่าเฉลี่ยนนักเตะอยู่ที่ 25-26 ปี ถึงแม้ว่าจะไม่มีดาวดัง แต่นักเตะทุกคนเล่นในเวทียุโรปหมดเลยก็ว่าได้ ดังนั้นประสบการ์ณไม่ต้องมีอะไรให้น่ากังวล โดยเฉพาะแดนกลางแน่นแน่นอน เชื่อว่าพวกเขาจะผ่านเข้าไปทะลุถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างแน่นอน

นักเตะคนสำคัญ – Pierre-Emile Höjbjerg และ Christian Eriksen

2 คู่หูแดนกลางที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเกมส์ของเดนมาร์กในปีนี้ ฮอยเบิร์กจะถนัดทางด้านเชื่อมเกมส์จากหลังไปหน้า ทำหน้าที่เป็นสไตล์ box to box ได้ ส่วนอีริคเซ่นจะเป็นคนเปลี่ยนจังหวะเร็วแทงทะลุหรือสวิตซ์เปลี่ยนฝั่ง เป็นสไตล์การเล่นแบบ deep lying playmaker ซึ่งก็ต้องบอกว่าสองคนนี้เล่นคู่กันมาตั้งแต่เยาวชนจนถึงตอนนี้เลยทีเดียว ดังนั้นเรื่องความเข้าใจไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ดังนั้นเดนมาร์กจะไปได้ไกลหรือไม่ไกลก็ขึ้นอยู่กับสองพระหน่อ นี่แหละครับ เฮียให้ว่าเดนมาร์กเป็นทีมม้ามื

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Tunisia

Manager – Jalel Kadri

แผนการเล่น – 4-1-4-1 / 4-3-3

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Bechir Ben Said, Aymen Dahmen, Mohamed Sedki Debchi

Defenders – Dylan Bronn, Montassar Talbi, Nader Ghandri, Bilel Ifa, Ali Abdi, Ali Maâloul, Yan Valery, Mohamed Dräger

Midfielders – Ellyes Skhiri, Anis Slimane, Aïssa Laïdouni, Ferjani Sassi, Ghaylen Chaaleli, Hannibal Mejbri, Naïm Sliti, Saîf-Eddine Khaoui, Youssef Msakni

Forwarder – Wahbi Khazri, Issam Jebali, Seifeddine Jaziri

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากแอฟริกา

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์แอฟริกัน เนชั่นคัพ 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – ไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้เลยมั้ง หนสุดท้ายที่เข้ามาบอลโลกต้องย้อนไปในปี 2005/2006 นั่นคือ 16 ปีที่แล้วเลยทีเดียว ปีนี้ได้กลับมาเล่นอีกรอบ เหลือบไปมองดาวเตะในทีมแต่ละคน เอ๊ะ ใครกัน ที่พอจะได้ยินชื่อก็ดาวเตะ เตะจริงจังอย่างฮันนิบาล หรือตัวเก๋าอย่าง กาซซรี่ นอกนั้นไม่รู้จักเลย คือถ้าเทียบดูแล้วจากกลุ่มแอฟริกัน ตูนิเซียคือทีมที่อ่อนสุดที่ผ่านมาเล่นรอบนี้ก็ว่าได้ ดังนั้นจากที่เห็นในกลุ่มนี้พวกเขาไปได้ไม่ไกลอย่างแน่นอน เจอทั้งเดนมาร์ก และฝรั่งเศส ดังนั้นไปแน่นอนจบแค่ 3 นัดเท่านั้นแหละ

นักเตะคนสำคัญ – ไม่มี

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

Facebook

ฟุตบอลโลก 2022 Group E

Group E ประกอบไปด้วย – เยอรมันนี, สเปน, ญี่ปุ่น, คอสตาริก้า

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ เยอรมันนี, สเปน (จัดให้เป็น Group of Deads)

ทีม Spain

Manager – Luis Enrique

แผนการเล่น – 4-2-3-1/ 4-3-3

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Robert Sánchez, Unai Simón, David Raya

Defenders – Pau Torres, Eric García, Diego Llorente, José Gayà, Jordi Alba, Daniel Carvajal, César Azpilicueta

Midfielders – Rodri, Hugo Guillamón, Sergio Busquets, Pedri, Gavi, Marcos Llorente, Carlos Soler, Koke, Ferran Torres, Marco Asensio, Nico Williams, Pablo Sarabia

Forwarder – Álvaro Morata, Borja Iglesias

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้าอันดับหนึ่งของ group B คัดเลือกโซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์บอลโลก 1 สมัย, แชมป์ยุโรป 3 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – สเปนชุดนี้ต้องยอมรับก่อนว่าผลงานยังดู 50/50 แม้จะเข้ามาเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มก็ตามแต่ชื่อชั้นนักเตะต้องบอกว่ายังดูห่างเมื่อเทียบกับทีมเต็งแชมป์คนอื่นๆ พวกเขากำลังเข้าสู่ยุคผลัดใบหลังจากหมดยุคของ ซาบี อิเนียสต้า บีย่า ตอร์เรส ซิลบา ตัวตายตัวแทนเหมือนจะผลิตไม่ทัน เพราะตอนนี้ที่ดูทรงมีแววก็อาทิเช่น กาบี และ เปรดรี้ นอกเหนือจากนั้นในแนวรุกอาทิเช่นกองหน้าของสเปนที่เคยขึ้นชื่อพอมองดูตอนนี้ต้องบอกว่าน่าใจหายเป็นอย่างมาก ดูแล้วสเปนชุดนี้น่าจะจบอยู่แค่ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ตัวทีเด็ดก็ไม่ได้มีแบบหวังพึ่งพาได้ ผู้รักษาประตูก็ยังมาจากทีมระดับกลาง นี่ว่าเป็นยุคเปลี่ยนของสเปนที่แท้จริง คงต้องใช้เวลาจนถึงบอลโลกรอบหน้าถึงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง

นักเตะคนสำคัญ – Gavi และ Pedri

2 คู่หูแดนกลางจากสังกัดบาร์เซโลน่า แม้จะเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงแต่ตอนนี้ต้องรับบทบาทเป็นจอมทัพทั้งคู่ เปรียบเสมือน ซาบี และอิเนียสต้า ยังไหงยังงั้นเลย แต่ก็ต้องใช้เวลาในการสะสมประสบการ์ณและกระดูกให้แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งคู่เป็นกำลังหลักสำคัญในการพาบาร์เซโลน่าลุ้นแชมป์ลีคในปีนี้ แต่สำหรับบอลถ้วยตกไปเล่นเพลย์ออฟรอบต่อไปของบอลถ้วยยูโรป้าเสียแล้ว ก็อย่างที่บอกเมื่อเจอเวทีที่ใหญ่ความเขี้ยว 2 เด็กหนุ่มนี้ยังคงต้องการเวลาเพื่อจะเติบโต แต่ยังไงสะตอนนี้ไม่มีทางเลือกพวกเขาจะได้ลงคู่กันอีกคน holding football อีกคนทำเกมส์เติมเกมส์รุก ไม่แน่ว่าพวกเขาจะแจ้งเกิดจากเวทีบอลโลกรอบนี้ก็เป็นได้

จัดอันดับ – เต็ง 5

ทีม Costa Rica

Manager – Luis Fernando Suárez

แผนการเล่น – 5-4-1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Keylor Navas, Esteban Alvarado, Patrick Sequeira

Defenders – Francisco Calvo, Juan Pablo Vargas, Óscar Duarte, Kendall Waston, Ronald Matarrita, Bryan Oviedo, Keysher Fuller, Carlos Martínez

Midfielders –  Daniel Chacón, Yeltsin Tejeda, Douglas López, Youstin Salas, Celso Borges, Roan Wilson, Gerson Torres, Jewison Bennette, Joel Campbell

Forwarder – Anthony Contreras, Johan Venegas, Anthony Hernández

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนคอนคาเคฟ

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์อเมริกากลาง 8 สมัย, แชมป์คอนคาเคฟ 3 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – กลับมาเล่นบอลโลกอีกครั้งนึง หลังจากที่หนสุดท้ายพวกเขาผ่านเข้ามาในปี 2005/06 ซึ่งย้อนกลับไปถึง 16 ปีที่แล้วเลยทีเดียว คอสตาริก้าผ่านเข้ามารอบแบ่งกลุ่มได้ด้วยการเป็นการเป็นลำดับ 4 ของโซนคอนคาเคฟ เพลย์ออฟเอาชนะนิวซีแลนด์มาได้ 1-0 นักเตะของพวกเขาที่พอรู้จักชื่อบ้างก็เช่น โจเอล แคมเบล เซลโซ่ บ็อกส์ นอกนั้นก็ไม่รู้จักสักคน แต่แน่นอนว่าผ่านเข้ามาได้ย่อมจะไม่ธรรมดาเช่นกัน ส่วนใหญ่ที่ลงเตะจะเสียอย่างมากก็แค่ 1 ลูกเท่านั้นเรียกได้ว่าน่าจะมีความเขี้ยวอยู่พอสมควร ดังนั้นพวกเขาอาจจะเป็นไม้ประดับที่อาจจะทำให้จ่ายราคาแพงก็เป็นได้

นักเตะคนสำคัญ – ไม่มี

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Germarny

Manager – Hansi Flick

แผนการเล่น – 3-4-1-2 / 4-2-3-1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Marc-André ter Stegen, Kevin Trapp, Oliver Baumann

Defenders – Antonio Rüdiger, Niklas Süle, Nico Schlotterbeck, Thilo Kehrer, Matthias Ginter, Armel Bella-Kotchap, David Raum, Benjamin Henrichs

Midfielders – Joshua Kimmich, Ilkay Gündogan, Maximilian Arnold, Robin Gosens, Jamal Musiala, Kai Havertz, Leroy Sané, Serge Gnabry, Jonas Hofmann, Robin Gosens

Forwarder – Lukas Nmecha, Thomas Müller

รอบคัดเลือก – อันดับหนึ่งของกลุ่ม J ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์ World Cup 4 สมัย, แชมป์ยุโรป 3 สมัย, แชมป์คอนเฟดเดเรชั่น คัพ 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – เยอรมันชุดนี้ ดีทุกตำแหน่งจริงๆ แน่นมาก แต่ปัญหามีให้เห็นเหมือนกันนั่นคือจังหวะจบสกอร์ เยอรมันชุดนี้ผสมผสานทั้งดาวรุ่งและมากประสบการ์ณ เฮียจัดให้เข้าไปอยู่เต็งหนึ่งร่วมกับบราซิล พวกเขาจัดว่าเป็นทีมที่น่ากลัวมากที่สุดก็ว่าได้ นักเตะทุกตำแหน่งอุดมไปด้วยความสามารถทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นคีย์แมนของแต่ละทีมในสโมสรอีกต่างหาก กรุ๊ปนี้ที่ลงเตะต้องบอกว่าจัดว่าเป็น Group of dead ก็ว่าได้ เพราะแต่ละทีมเขี้ยวๆทั้งนั้น ทั้งสเปน ญี่ปุ่นก็ใช่ย่อย และคอสตาริก้า ก็ไม่ใช่หมูๆ ความกรอบจะมีมากกว่าทีมเต็งอื่นๆ แต่ยังไงสะดูแล้วไปทะลุรอบ 4 ทีมสุดท้ายอย่างแน่นอน ดังนั้นฟันธงไปถึงรอบตัดเชือกเป็นอย่างต่ำแต่ต้องดู ณ ตอนนั้นว่ากรอบแค่ไหน

นักเตะคนสำคัญ – Jamal Musiala

ความจริงเยอรมันถ้าจะให้เลือกจริงๆ คงเป็นได้ทุกคนสำหรับการเป็นคีย์แมน แต่นาทีนี้ต้องยกให้เจ้าหนู จามาล มูเซียล่า ผู้นี้เพราะลีลาเหลือร้ายเหลือกิน ทั้งจังหวะครองบอลก็เหนียวแน่นเกินรับประทาน อีกทั้งเซนส์การจ่ายบอลก็โตเกินไว ทำลายทะลุทะลวง ยิงประตูก็คมอีกต่างหาก ความพริ้วต้องบอกเลยว่าเหลือร้ายจริงๆ ซึ่งตำแหน่งของเขากับทีมบาเยิร์นมิวนิค คือการยืนเป็นกลางรุกเชิงไปทางหน้าต่ำ ซึ่งตอนนี้ลงเล่นไปแล้ว 19 นัด ยิงไป 10 ประตู และแอสซิสต์อีก 8 ลูก ด้วยวัยเพียง 19 ขวบเท่านั้น กลายเป็นกำลังหลักทั้งในทีมชาติและสโมสร และแน่นอนว่าบอลโลกปีนี้แสงทั้งหมดจะถูกจับจ้องมาที่เข้าอย่างแน่นอน

จัดอันดับ – เต็ง 1 ร่วมของปีนี้

ทีม Japan

Manager – Hajime Moriyasu

แผนการเล่น – 4-2-3-1/ 4-3-3

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Daniel Schmidt, Shuichi Gonda, Eiji Kawashima

Defenders – Ko Itakura, Shogo Taniguchi, Yuta Nakayama, Hiroki Ito, Takehiro Tomiyasu, Hiroki Sakai, Miki Yamane, Yuto Nagatomo

Midfielders – Wataru Endo, Hidemasa Morita, Ao Tanaka, Gaku Shibasaki, Daichi Kamada, Takumi Minamino, Kaoru Mitoma, Daizen Maeda, Yuki Soma, Takefusa Kubo

Forwarder – Ayase Ueda, Takuma Asano

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม 6

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์เอเชีย 4 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – สายเลือดซามูไร ยอดนักสู้ วิ่งสู้ฟัดทุกรอบการแข่งขัน ตอนนี้ญี่ปุ่นถือว่าเป็นทีมเอเชียขาประจำที่มาบอลโลกทุกๆรอบเหมือนกัน ปีนี้เข้ามาด้วยอันดับ 1 ของกลุ่ม 6 ผลประตูได้เสียคือ 44 ประตู ยิงกระจุยกระจายทุกนัด มาตราฐานของพวกเขาเมื่อเทียบกับทีมในเอเชียแล้วห่างกันไกลเสียแล้ว ด้วยลีคที่เข้มแข็งขึ้นทุกวัน มันทำให้นักเตะของพวกเขามีความแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย นักเตะหลายคนที่ย้ายไปค้าแข็งที่ยุโรป แม้จะประสบความสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ได้คือการพัฒนาของตนเอง ญี่ปุ่นในปีนี้ไม่มีอะไรให้กลัวเพราะพวกเขาวิ่งสู้ฟัดตลอดอยู่แล้วแต่คาดการ์ณว่าพวกเขาไม่น่าจะไปถึงฝั่งฝัน คงจบด้วยการตกรอบแบ่งกลุ่มนี่แหละ แต่ก็ถือว่าเป็นสีสันที่อาจจะสร้างเซอร์ไพร์สได้เช่นกัน

นักเตะคนสำคัญ – ไม่มีทีเด็ด

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

Facebook

ฟุตบอลโลก 2022 Group F

Group F ประกอบไปด้วย – เบลเยี่ยม, แคนาดา, โครเอเชีย, โมร็อคโค

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ – เบลเยี่ยม, โครเอเชีย

ทีม Belgium

Manager – Roberto Martínez

แผนการเล่น – 3-4-2-1 / 3-4-3

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Thibaut Courtois, Koen Casteels

Defenders – Wout Faes, Arthur Theate, Jason Denayer, Zeno Debast, Brandon Mechele, Toby Alderweireld, Timothy Castagne, Thomas Meunier,

Midfielders – Amadou Onana, Leander Dendoncker, Axel Witsel, Youri Tielemans, Kevin De Bruyne, Charles De Ketelaere, Hans Vanaken, Yannick Carrasco, Leandro Trossard, Eden Hazard, Thorgan Hazard

Forwarder – Michy Batshuayi, Romelu Lukaku

รอบคัดเลือก – อันดับหนึ่งของกลุ่ม E ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – เบลเยี่ยมเคยทำได้ดีสุดคือการได้เป็นอันดับสามของฟุตบอลโลกในรอบที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเมื่อย้อนไป 4 ปีที่แล้ว ดาวเตะทุกคนของเบลเยี่ยมกำลังอยู่ในช่วงพีคพอดีทั้งทีม อาทิเช่น เอแดน อาซาร์, โรเมลู ลูกากู, วิสเซล, แฟร์ทองเก้น, เดอ บรอยด์, มูเนียเอร์ ตัดภาพมาปีนี้ที่กล่าวไปทั้งหมดเหลือเพียงแค่ เควิน เดอ บรอยด์ แค่นั้นที่ยังรักษาฟอร์มการเล่นได้มาตราฐานของตัวเองไว้นอกนั้นโรยราไปตามอายุไขและอาการบาดเจ็บ พูดง่ายๆว่าเบลเยี่ยมไม่มีตัวแทนนักเตะที่พึ่งพาได้อย่างต่อเนื่อง ปีนี้พวกเขาเลยดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับรอบที่ผ่านมา ดังนั้นต้องบอกว่าปีนี้พวกเขาน่าจะทำได้แค่ผ่านไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

นักเตะคนสำคัญ – Kevin De Bruyne

หากใช้คำว่าเขาคือกองกลางอันดับหนึ่งของโลกตอนนี้ก็ไม่น่าจะมีใครคัดค้านนะครับ เควิน เดอ บรอยด์ กับลูกส่งมหัสจรรย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งปีนี้ในสโมสรจับคู่หูกับฮาแลนด์ต้องบอกว่ายิงกันจนระบมเท้าไปหมดแล้ว ลูกโค้งที่เปิดตัดแผงหลังทุกทีมในพรีเมียร์โดนมาหมดแล้ว จังหวะสับไกลสังหารหายแทบตลอดหากมีช่องให้เขา ฟรีคิกสุดสวยก็ทำได้มาจนนับไม่ถ้วน ดังนั้นถ้าจะบอกว่าไม่มีใครเทียบเขาได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร โคตรของเซนส์บอล และการเหลือบสายตามองแล้วส่ง จินตนาการในหัว วาดภาพออกมาอย่างแม่นยำเมื่อบอลออกจากเท้าของเขาทุกอย่างมันจะเป็นประตู 50-50 เลยทีเดียว นี่คือยอดนักเตะที่ปีนี้จะเฉิดฉายในบอลโลกอีกครั้งนึง

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Canada

Manager – John Herdman

แผนการเล่น – 4-4-2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Maxime Crépeau, Dayne St. Clair, James Pantemis

Defenders – Kamal Miller, Joel Waterman, Lukas MacNaughton, Doneil Henry, Raheem Edwards, Alistair Johnston, Richie Laryea, Zachary Brault-Guillard

Midfielders – Samuel Piette, Liam Fraser, Ismaël Koné, Mark-Anthony Kaye, Jonathan Osorio, Mathieu Choinière, Jayden Nelson, Jacob Shaffelburg,

Forwarder – Ayo Akinola, Lucas Cavallini

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้าอันดับหนึ่งของโซนคอนคาเคฟ

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์คอนคาเคฟ 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – ผลงานรอบคัดเลือกที่ผ่านมาพวกเขาทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อเข้ามาเป็นที่หนึ่งของโซนคอนคาเคฟ จากการแข่งทั้งหมด 14 นัด พวกเขามีทั้งหมด 28 คะแนนเก็บลูกได้เสียมากถึง 16 ประตู นับว่าฟอร์มการเล่นแจ่มสุดจากบรรดาทีมจากโซนคอนคาเคฟที่ผ่านเข้ามา และต้องบอกว่านี่เป็นการกลับมาได้เล่นบอลโลกอีกครั้ง หลังจากครั้งสุดท้ายพวกเขาผ่านเข้ามาเล่นบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มในปี 1985/86 ซึ่งหากนับก็ 36 ปีเต็มหรือ 9 รอบบอลโลกเลยทีเดียว ซึ่งเป็นอะไรที่วิเศษมากๆเลยทีเดียว จุดดีจุดเด่นของทีมนี้คือการเล่นเกมส์รับเพราะส่วนใหญ่จะเสียแค่ลูกเดียวและเก็บคลีนชีทได้อีกมากมาย แต่นั่นก็เป็นทีมระดับภูมิภาคตัวเอง บอลโลกรอบสุดท้ายนี้มีแต่เสือสิงกระทิงแรดทั้งนั้นโอกาสที่พวกเขาจะเข้ารอบต่อไปเฮียมองว่าไม่มีเลย ดังนั้นกาหัวตกรอบแรกไปได้เลย

นักเตะคนสำคัญ – ไม่มีทีเด็ด

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Morocco

Manager – Walid Regragui

แผนการเล่น – 4-3-3/ 4-1-4-1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Bono, Munir, Ahmed Reda Tagnaouti

Defenders – Romain Saïss, Achraf Dari, Samy Mmaee, Jawad El Yamiq, Yahia Attiat-Allah, Achraf Hakimi, Noussair Mazraoui, Fahd Moufi

Midfielders – Sofyan Amrabat, Yahya Jabrane, Azzedine Ounahi, Hakim Ziyech, Amine Harit, Ilias Chair, Selim Amallah, Abdelhamid

Forwarder – Younès Belhanda, Sofiane Boufal, Youssef En-Nesyri, Munir El Haddadi

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนแอฟริกา

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์แอฟริกาคัพ 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – โมร็อคโค พัฒนาทีมขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด นักเตะหลายๆคนมีชื่อเสียงมากขึ้นได้ไปเล่นกับทีมชั้นนำหลายต่อหลายคนอยู่ อาทิเช่น ฮาคีมี่ หรือจะเป็นเอ็น เนซรี่ และรวมถึง ฮาคิม ซีเยค ก็ต้องบอกว่าได้ดีทุกคนเป็นกำลังสำคัญให้กับทีม ทำให้การพัฒนาฟุตบอลของทีมชาติโมร็อคโคเป็นไปในทางที่ดี ปีนี้ดูแล้วการมาอยู่ในกลุ่มที่มีทั้ง โครเอเชีย แคนาดา รวมถึงเบลเยี่ยม ก็ต้องบอกว่าพวกเขาสู้ได้ทุกทีมไม่เป็นรองอะไรมากมายนัก เผลอๆอาจจะพลิกเข้ารอบไปได้ด้วยซ้ำ ดูแล้วกรุ๊ปนี้ก็ยังสามารถออกได้หลายหน้าอยู่ ถือว่าโมร็อคโคเป็นม้ามืดที่อาจจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมก็เป็นได้

นักเตะคนสำคัญ – Achraf Hakimi, Hakim Ziyech

จะบอกว่าเป็นนักเตะที่เด็ดสุดในทีมก็ไม่แปลก เขาสามารถเล่นได้ทั้งแบ็ค หรือจะดันขึ้นมาเล่นปีกก็ได้ การเติมเกมส์รุกทำได้อย่างยอดเยี่ยมขณะที่เกมส์รับก็รับได้ดีมีทั้งความไวและความแข็งแกร่งพอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้นเกมส์รุกทางฝั่งขวาของโมร็อคโคต้องจับตาดูให้ดี เพราะจะยืนริมเส้นคู่กับ ฮาคิม ซีเยค สะด้วย อีกคนนึงลากตัด อีกคนวิ่งสอดริมเส้น มันส์อย่างแน่นอน

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Croatia

Manager – Hajime Moriyasu

แผนการเล่น – 4-1-4-1/ 4-3-3

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Dominik Livakovic, Ivica Ivusic

Defenders – Josko Gvardiol, Josip Sutalo, Martin Erlic, Dejan Lovren, Borna Sosa, Borna Barisic, Josip Stanisic, Josip Juranovic

Midfielders – Marcelo Brozovic, Mateo Kovacic, Luka Sucic, Luka Modric, Ivan Perisic, Mario Pasalic, Lovro Majer, Nikola Vlasic, Mislav Orsic

Forwarder – Ante Budimir, Bruno Petkovic, Marko Livaja, Andrej Kramaric

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม H โซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – ทีมโครเอเชีย ผ่านการคัดเลือกในโซนยุโรป ในฐานะแชมป์กลุ่มของกลุ่ม H ฟอร์มการเล่นผละผลงานถือว่าแข็งแกร่งเลยทีเดียว แถมที่สำคัญต้องดูว่าพวกเขาจะสามารถต่อยอดจากการเป็นอันดับสองของบอลโลกรอบที่แล้วได้ขนาดไหน แต่หากดูจากชื่อชั้นนักเตะในตอนนี้แล้วก็ต้องบอกว่าน่าจะเป็นไปได้ยาก ด้วยที่นักเตะหลายๆคนเลยจุดพีคมาแล้ว แนวรับมีอายุเยอะมากขึ้น แถมแดนกลางก็ยังคงต้องพึ่งพาลูก้า โมดริช อยู่คนเดียว อีวาน เปริซิซ เองปีนี้ก็ดูฟอร์มดรอปลงไปค่อนข้างเยอะจากการย้ายไปอยู่กับเชลซี ทำให้ไม่ว่ามองดูยังไงแม้จะผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มไปได้แต่คงไม่วายตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปอย่างแน่นอน หรือหากมีพลิกโผเต็มที่ดูแล้วกไปได้แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

นักเตะคนสำคัญ – Luka Modric

ยอดกองกลางอีกคนบนโลกใบนี้ ขนาดอายุปาไป 37 ขวบ ก็ยังลงเล่นได้สม่ำเสมอจริงๆไม่ว่าจะเป็นทั้งในนามทีมชาติหรือในนามของสโมสรเองก็ตาม เขายังถือเป็นหัวใจสำคัญของการคุมจังหวะเกมส์ เปลี่ยนบอลจากรุกเป็นรับ คอนโทรลเกมส์ให้กับทั้งทีมชาติและสโมสร ซึ่งก็ต้องบอกว่าหาได้น้อยคนที่วัย 37 ปี จะเล่นแดนกลางได้อย่างเขา โมดริช ในฤดูกาลนี้ลงเล่นไปแล้ว 16 นัดและเป็นการสตาร์ทตัวจริงที่สูงถึง 77% เลยทีเดียวคิดดูเอาว่าฟิตขนาดไหน แน่นอนว่าปีนี้คงสิ้นสุดแล้วสำหรับบอลโลกของเขา แน่นอนว่าผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ แต่ดูแล้วจะจอดมากสุดที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ฟุตบอลโลก 2022 Group G

Group G ประกอบไปด้วย – สวิสเซอร์แลนด์, แคมเมอรูน, เซอร์เบีย, บราซิล

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ – บราซิล, สวิสเซอร์แลนด์/ เซอร์เบีย (จัดว่าเป็น Group of Deaths)

ทีม Brazil

Manager – Tite

แผนการเล่น – 4-3-3/ 4-2-3-1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Alisson, Ederson, Weverton

Defenders – Marquinhos, Éder Militão, Roger Ibañez, Thiago Silva, Renan Lodi, Alex Telles, Danilo, Bremer

Midfielders – Bruno Guimarães, Fabinho, Casemiro, Fred, Lucas Paquetá, Vinicius Junior, Neymar, Antony, Rodrygo, Raphinha,

Forwarder – Pedro, Roberto Firmino, Matheus Cunha

รอบคัดเลือก – แชมป์กลุ่มจากรอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์โลก 5 สมัย, แชมป์โคปา อเมริกา 9 สมัย, แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ 4 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – บราซิล เฮียยกให้เป็นเต็งหนึ่งเลยในรายการนี้ เพราะต้องบอกว่านักเตะทุกตำแหน่งโคตรเก๋าและสดทุกตำแหน่งจริงๆ ผลงานการเก็บชัยชนะจากรอบคัดเลือก ยิงกระจุยกระจาย แนวรักจัดว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก แถมกองหลังก็เหนียวแน่นสุด ผู้รักษาประตูเบอร์หนึ่ง และเบอร์สอง ก็สุดเหนียวทั้งสองคน เรียกว่าถ้าลูกไม่ยากจริง ไม่มีทางผ่านพวกเขาทั้งสอง และอย่างที่บอกแนวรุกชุดนี้จัดจ้านมากทั้งลีลาความไวการวิ่งทำช่องของแนวรุกหาแนวรับคนไหนมาจับได้ยาก แบบนี้ฟันธงหากไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเขาจะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 มาได้อย่างแน่นอน

นักเตะคนสำคัญ – เลือกไม่ได้เลย เพราะดีทุกคน

ทั้งแนวรุกก็มีทั้งเนย์มาร์ เวเนซุส แอนโธนี่ ที่ลีลาพริ้วไหวเหลือร้าย หรือจะมองหาจังหวะจบคมๆอย่าง คุนญ่า หรือ false nine เซนส์บอลดีๆก็เฟอร์มิโน่ แดนกลางทั้งคาเซมิโร่ก็คุมจังหวะแผงหลัง หรือปาเกต้าที่เป็น playmaker แนวรับทั้งมาร์ควินญอส มิลิเตา ก็แข็งแกร่ง ผู้รักษาประตูทั้ง แอร์เดอร์สัน และอลิซง ทั้งคู่ต่างนับว่าเป็นเบอร์หนึ่งของโลก แบบนี้แล้วต้องบอกว่าเลือกไม่ถูกจริงๆ เพราะทุกคนต่างเป็นคีย์แมนในหน้าที่ของตัวเองทั้งนั้น

จัดอันดับ – เต็งหนึ่ง

ทีม Serbia

Manager – Dragan Stojkovic

แผนการเล่น –  3-4-1-2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Marko Dmitrovic, Vanja Milinkovic savic, Marko Ilic

Defenders – Strahinja Pavlovic, Milos Veljkovic, Strahinja Erakovic, Srdjan Babic, Stefan Mitrovic, Aleksa Terzic

Midfielders – Nemanja Maksimovic, Uroš Racic, Nemanja Gudelj, Sergej Milinkovic-Savic, Saša Lukic, Ivan Ilic, Filip Kostic, Dusan Tadic, Filip Djuricic, Andrija Zivkovic, Nemanja Radonjic

Forwarder – Dušan Vlahovic, Aleksandar Mitrovic, Luka Jovic

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A จากคัดเลือกโซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – ทีมชาติเซอร์เบีย ชุดนี้ต้องบอกว่าน่ากลัวจริงๆไล่ตั้งแต่แนวรับยันแนวรุก ซึ่งต้องบอกว่าแนวรุกครบเครื่องมากนะครับ มีทั้งวลาโฮวิช และ มิโตรวิช แถมมีหน้าสำรองอย่างลูก้า โจวิช แดนกลางก็แน่นมีทั้งมิลินโควิช ดูซาน ทาดิซ ครบเครื่องจริงๆครับ เล่นได้ทั้งต่อบอลตามช่องและลูกกลางอากาศ ดูทรงแล้วแน่นอนว่าพวกเขาจะลุยเบียดแย่งกับการเข้ารอบต่อไปได้แน่ กรุ๊ปนี้ถือว่าน่าจับตามองเป็นที่สุด การขับเคี่ยวตลอด 3 นัดแน่นอน

นักเตะคนสำคัญ – คู่หู Dušan Vlahovic, Aleksandar Mitrovic

สองศูนย์หน้าคู่หูที่น่าจับตามองในบอลโลกหนนี้ เซอร์เบียจะไปได้ไกลแค่ไหนก็ต้องหวังพึ่งการจบสกอร์ของทั้งคู่นี่แหละ ทั้งคู่สามารถเล่นลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี และที่สุคัญทักษธการเล่นบอลกับพื้นก็ดีเยี่ยม พักบอลให้ทีมได้ทั้งคู่ แม้ความไวจะไม่จัดจ้าน แต่ต้องบอกว่าความคมไม่เป็นสองรองใคร ดังนั้นไม่ต้องสืบเลยว่าหากพวกเขาท็อปฟอร์มในบอลโลกหนนี้ เซอร์เบียทะลุไปได้ถึง 8 ทีมสุดท้ายแน่นอน

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Switzerland

Manager – Murat Yakin

แผนการเล่น – 4-2-3-1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Yann Sommer, Yvon Mvogo, David von Ballmoos

Defenders – Nico Elvedi, Fabian Schär, Ricardo Rodríguez, Eray Cömert, Kevin Mbabu, Silvan Widmer,

Midfielders – Denis Zakaria, Ardon Jashari, Fabian Frei, Granit Xhaka, Djibril Sow, Remo Freuler, Rubén Vargas, Xherdan Shaqiri, Dan Ndoye, Renato Steffen

Forwarder – Breel Embolo, Haris Seferovic, Cedric Itten, Zeki Amdouni

รอบคัดเลือก – อันดับหนึ่งของกลุ่ม C ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – ไม่มี

ความสำเร็จในบอลโลก – ทีมแห่งเมืองนาฬิกา สวิสเซอร์แลนด์ ผลงานในรอบคัดเลือกทำผลงานได้อย่างดี หลังเบียดเอาชนะจนเป็นแชมป์กลุ่มตบอิตาลีร่วงไปเพลย์ออฟ สุดท้ายอิตาลีไม่ได้ไปบอลโลก ผลงานถือว่าเก่งจัดเหมือนกันสำหรัยสวิสเซอร์แลนด์ การเล่นแต่ละเกมส์ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นจริงๆ ปีนี้โดยรวมนักเตะทุกคนผ่านสมรภูมิถ้วยบอลโลกกันมาแล้วทั้งนั้น เรียกว่าประสบการ์ณโชกโชน แถมแดนกลางกัปตันทีมอย่างกรานิต ซาก้า มีฟอร์มการเล่นที่สุดจัดอีกต่างหาก ควบคุมเกมส์แดนกลางได้ดีเยี่ยม หัวใจของสวิสเซอร์แลนด์คือทีมเวิร์คนี่แหละครับ เฮียมองว่าให้วางเป็นม้ามืดในการเข้าสู่รอบ 8 ทีมได้อยู่

นักเตะคนสำคัญ – Granit Xhaka

ต้องบอกว่าหลายคนอาจจะงงว่าทำไมเป็นทีเด็ด ต้องบอกว่า กรานิต ซาก้า ยกมาตราฐานผลงานการลงเล่นของเขาได้ดีอย่างต่อเนื่องจากปลายฤดูกาลที่แล้วจนถึงตอนนี้ เขาพาอาร์เซนอลยึดอันดับหนึ่งเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งความสำคัญของเขาคือการ holding ball หรือที่เรียกว่าการคุมจังหวะของเกมส์นี่แหละ ไม่ใช่ทำหน้าที่แค่นั้นแต่เขายังคุมพื้นที่ช่วงกลางรับไปจนถึงแนวรับอีกต่างหาก ซึ่งต้องบอกว่าเขาทำได้ดีจริงๆ ดังนั้นหาก กรานิต ซาก้า โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็ ก็ต้องบอกว่าสวิสเซอร์แลนด์จะน่ากลัวขึ้นมากเลยทีเดียว

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Cameroon

Manager – Rigobert Song

แผนการเล่น – 4-3-3/ 4-4-2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – André Onana, Devis Epassy, Simon Ngapandouetnbu

Defenders – Christopher Wooh, Jean-Charles Castelletto, Nicolas N’Koulou, Oumar Gonzalez, Nouhou, Darlin Yongwa, Olivier Mbaizo, Collins Fai

Midfielders – Jean Onana, Martin Hongla, Samuel Oum Gouet, Pierre Kunde, Olivier Ntcham, Karl Toko Ekambi, Bryan Mbeumo, Nicolas Moumi Ngamaleu, Georges-Kevin N’Koudou

Forwarder – Vincent Aboubakar, Jean-Pierre Nsame, Léandre Tawamba

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนแอฟริกา

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์แอฟริกา 5 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – แคมเมอรูนได้กลับมาเล่นฟุตบอลโลกอีกครั้ง หลังจากหลุดไปในรอบที่ผ่านมา ปีนี้นักเตะที่คัดมาแต่ละคนก็ดูดีกว่าเก่า ตราหมอผีแน่นอนเรื่องความไวและถึกไปเป็นสองรองใครในโลกนี้ นักเตะตอนนี้ที่ดูมีวี่แววดีสุดก็คงหนีไม่พ้น ไบรอัน เอ็มบิวโม่ ที่เล่นให้กับเบรนท์ฟอร์ดอยู่ตอนนี้ แคเมอรูนผู้เล่นส่วนใหญ่เล่นในลีคชั้นนำทั้งนั้น ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า เพราะฉะนั้นเรื่องประสบการ์ณไม่มีอะไรต้องห่วง แต่อย่างที่บอกกรุ๊ปนี้มันเป็นแดน 9 แต่ละทีมเขี้ยวๆเท่านั้น พวกเขาสู้ได้กับทุกทีมแน่นอน แต่ต้องวัดที่ความคม ซึ่งในสายตาเฮียนั้นยังดูเป็นรองทั้งบราซิลและสวิสเซอร์แลนด์อยู่

นักเตะคนสำคัญ – Bryan Mbeumo

ต้องบอกว่าน่าจับตามองนะครับ สำหรับนักเตะรายนี้ ตอนนี้กำลังเล่นได้ดีกับต้นสังกัดอย่างเบรนท์ฟอร์ด แม้จะเป็นทีมเล็กแต่ต้องบอกว่า เอ็มบิวโม่ สร้างสรรค์จังหวะอันตรายๆให้กับทีมต้นสังกัดได้อยู่เสมอ ซึ่งเขาลงสนามให้กับเบรนท์ฟอร์ดไปแล้ว 14 นัด ยิงได้ 3 ประตู และที่น่าสนใจคือเขาลงสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกนัด เชื่อว่าปีนี้ในบอลโลกเขาน่าจะสร้างความหวือหวาให้กับทีมได้

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

Facebook

ฟุตบอลโลก 2022 Group H

Group G ประกอบไปด้วย – โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้

ทีมเต็งที่จะเข้ารอบจากกลุ่มนี้ – โปรตุเกส, กาน่า/ อุรุกวัย (Group of dead)

ทีม Portugal

Manager – Fernando Santos

แผนการเล่น – 4-2-3-1/ 4-3-3

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Diogo Costa, José Sá, Rui Patrício

Defenders – Rúben Dias, Tiago Djaló, Nuno Mendes, Mário Rui, João Cancelo, Diogo Dalot, Periera

Midfielders – Rúben Neves, João Palhinha, William Carvalho, Matheus Nunes, Vitinha, João Mário, Bernardo Silva, Bruno Fernandes

Forwarder – João Félix, Christiano Ronaldo, Ricardo Horta, Rafael Leão

รอบคัดเลือก – ผ่านการเข้ารอบด้วยการเพลย์ออฟ โซนยุโรป

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์ยุโรป 1 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – แดนลูกหนังเมืองฝอยทอง ผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการไปเล่นเพลย์ออฟและเอาชนะตุรกี ผลงานโดยรวมตอนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควรเป็นที่สองของกลุ่ม 2 จากศึก Nation League จุดเด่นของทีมชุดนี้คือแดนกลาง ต้องบอกว่าแดนกลางชุดนี้น่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ละคนแข็งแกร่งทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นตัวหลักให้กับสโมสรทุกคน ปัญหาน่าจะอยู่ที่แดนหน้า โรนัลโด้ ดรอปลงไปเยอะ แต่ก็ยังพอมีพิษสง ดังนั้นหากแดนกลางทำเกมส์ป้อนบอลสวยๆพี่โด้ก็จบปิดสกอร์ได้เช่นกัน ดูภาพรวมเมื่อเทียบกับทีมอื่น แม้กรุ๊ปนี้จะค่อนข้างแข็งทุกทีม แต่โปรตุเกสยังดูมีดีมากกว่า ดังนั้นเชื่อว่าพวกเขาจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้แน่นอน แต่จะไปได้ถึงไหนค่อยว่ากัน

นักเตะคนสำคัญ – Bernado Silva

เบอร์นาโด้ ซิลวา เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักห้องเครื่องไดนาโม สังกัดโคตรมหาประลัยทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลีลาการเล่นแพรวพราว เอาตัวรอด ต้องบอกว่าโคตรเก่ง เลี้ยงบอลติดเท้ามาก จังหวะการจ่ายบอลก็สุดคม ดังนั้นเชื่อว่าเขาจะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเกมส์ของพลพรรคฝอยทอง โดยจะมี เจา ฟีลิกซ์ เป็นหน้าต่ำคอยช่วยให้พี่โด้พังสกอร์

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Ghana

Manager – Otto Addo

แผนการเล่น – 4-3-3/ 4-4-2

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Richard Ofori, Abdul Nurudeen, Joe Wollacott

Defenders – Mohammed Salisu, Daniel Amartey, Alexander Djiku, Joseph Aidoo, Joseph Aidoo, Gideon Mensah, Abdul-Rahman Baba, Tariq Lamptey

Midfielders – Thomas Partey, Elisha Owusu, Iddrisu Baba, Mohammed Kudus, Kamaldeen Sulemana, Andre Ayew, Osman Bukari, Ransford-Yeboah Konigsdorffer

Forwarder – Jordan Ayew, Iñaki Williams, Antoine Semenyo, Felix Afena-Gyan

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบจากโซนแอฟริกา

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์แอฟริกา 4 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – กาน่า เป็นทีมที่น่าสนใจไม่ใช่ย่อยนะครับ เพราะนักเตะแต่ละคนเล่นในลีคชั้นนำแทบทั้งนั้น ทั้ง ซาลิซู อมาเตย์ แลมตีย์ พาร์เทย์ บาบา คูดูส วิลเลี่ยม เอาเป็นว่ามีแน่นอนขึ้นค่อนทีม เพราะฉะนั้นเรื่องประสบการ์ณไม่มีอะไรให้น่ากังวล กาน่าจุดเด่นคือความแข็งแกร่ง อึดถึกทน และที่สำคัญว่องไว จังหวะสวนกลับของทีมนี้น่ากลัวแน่นอน โดยเฉพาะคูดูส ยอดดาวรุ่งที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ ดังนั้นเฮียคิดว่าพวกเขาน่าจะเข้าเป็นที่สองก็เป็นได้แต่ต้องขับเคี่ยวกับอุรุกวัยนี่แหละ

นักเตะคนสำคัญ – Mohammed Kudus

อาจจะยังไม่เปรี้ยงปร้างมากมาย แต่ต้องบอกว่าน่าจับตามองมากทีเดียวสำหรับ โมฮาเหม็ด คูดูส เพราะเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่มีทั้งความไว ความพลิ้วทักษะการเอาตัวรอดดี และแข็งแกร่งอีกต่างหาก เชื่อว่าอีกไม่นานชื่อเขาจะต้องโด่งดังกว่านี้ คูดูสเล่นให้ทีมชาติมาแล้ว 18 นัด ยิงไป 5 ประตู แบะอีก 3 แอสซิสต์ ดังนั้นบอลโลกหนดีเขาจะมาเป็นตัวทีเด็ดอย่างแน่นอน

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม Uruguay

Manager – Diego Alonso

แผนการเล่น – 4-4-2/ 4-3-3

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Sergio Rochet, Fernando Muslera,

Defenders – Ronald Araujo, Agustin Rogel, Sebastian Caceres, Leandro Cabrera, Mathias Olivera, Matias Vina, Guillermo Varela, Damian Suarez

Midfielders – Manuel Ugarte, Lucas Torreira, Fedrico Valverde, Rodrigo Bentancur, Nicolas de la Cruz, Matias Vecino, Giorgian de Arrascaeta, , Agustin Canobbio, Facundo Pellistri, Brian Ocampo

Forwarder – Darwin Nunez, Luis Suarez, Martin Satriano

รอบคัดเลือก – ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับสามของโซนอเมริกาใต้

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์โลก 2 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – จอมโหด อุรุกวัย ฉายานี้ได้จากการเล่นแบบถึงลูกถึงคน ดุดัน เข้าบอลไวและหนักหน่วง อุรุกวัยนี่ถือเป็นขาประจำที่ผ่านเข้ามาเล่นบอลโลก มีนักเตะทดแทนยุคต่อยุคได้ตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะผ่านรอบแบ่งกลุ่มอีกต่างหาก ปีนี้จับมาอยู่กรุ๊ปหินเลยทีเดียว เจอทั้งโปรตุเกส กาน่า เกาหลีใต้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป ซึ่งก็มองดูแล้วว่าเหนื่อยเหมือนกันเพราะพวกเขาไม่ค่อยคม ใช้จังหวะเปลือง แต่ยังดีที่แดนกลางทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดี ดังนั้นต้องหวังพึ่งให้เกมส์รุกมีความเฉียบขาดมากกว่าเดิม โดยเฉพาะดาร์วิน นูนเญซ ดังนั้นการเข้ารอบต่อไปจึงต้องเป็นเครื่องหมายคำถามไว้ก่อนว่าจะรอดหรือไม่รอด

นักเตะคนสำคัญ – Fedrico Valverde

นี่เป็นยอดดาวรุ่งที่พุ่งแรงที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ ถึงขนาดอันเชล็อตติ เอ่ยชมและจะวางมือหากดาวเตะรายนี้ยิงได้ไม่ถึง 15 ลูก ซึ่งตอนนี้เขาลงสนามไปแล้ว 18 นัดยิงไป 8 ประตูแล้ว และมีอีก 4 แอสซิสต์อีกต่างหาก บัลเบอร์เด้ จัดเป็นนักเตะสไตล์ box to box หรือจะจับถ่างไปยืนปีกก็ยังได้ ทักษะการเล่นบอลกับพื้นค้อนข้างสูงทีเดียว มองๆไปต้องบอกว่าสไตล์คล้าย เควิน เดอ บรอยด์ เหมือนกัน ยิงไกลก็ดี เติมจากแถมสองก็ทำได้เยี่ยม แถมคิลเลอร์พาสคมอีกต่างหาก น่าติดตามดาวเตะผู้นี้อย่างมาก

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

ทีม South Korea

Manager – Paulo Bento

แผนการเล่น – 4-1-4-1/ 4-2-3-1

รายชื่อที่ 23 ขุนพลชุดลุยบอลโลก (ที่คาดไว้)

Goalkeepers – Bum-keun Song, Seung-gyu Kim, Dong-jun Kim

Defenders – Min-jae Kim, Kyung-won Kwon, Yu-min Cho, Young-gwon Kim, Jin-su Kim, Chul Hong, Tae-hwan Kim, Moon-hwan Kim, Jong-gyu Yoon

Midfielders – Jun-ho Son, Woo-young Jung, In-beom Hwang, Seung-ho Paik, Kang-in Lee, Jae-sung Lee, Heung-min Son, Sang Ho na, Chang-Hoon Kwon,

Forwarder –Ui-jo Hwang, Woo-yeong Jeong, Hee-chan Hwang

รอบคัดเลือก – เข้ารอบจากโซนเอเชีย

ผลงานความสำเร็จรายการนานาชาติ – แชมป์เอเชีย 2 สมัย

ความสำเร็จในบอลโลก – นับตั้งแต่การเป็นเจ้าภาพบอลโลก พวกเขาก็มาทุกรอบ เรียกว่าเป็นขาประจำไปแล้วสำหรับเกาหลีใต้ ตอนนี้นอกจากซีรี่ย์ หรือเน็ตไอดอลแล้ว เกาหลีใต้ก็ส่งผลผลิตของตัวเองออกไปในด้านลูกหนังอีกต่างหาก มีนักเตะหลายคนที่ได้ไปค้าแข้งในยุโรป ซึ่งต้องบอกว่าคนที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น ซอน ดฮือง มิน ที่ฤดูกาลที่แล้วเป็นดาวซัลโวร่วมกับ โม ซาล่าห์ และยังมีอีกหลายคนอย่างอาทิเช่นมิน แจ คิมที่กลายเป็นกำลังหลักของนาโปลีอยู่ แต่ก็ต้องบอกว่าแม้จะมีผู้เล่นไปโด่งดังหลายคน แต่โดยรวมแล้วเกาหลีใต้ก็ยังเป็นรองทีมที่เหลืออีกอยู่หลายขุมนัก ดังนั้นดูแล้วจอดรอบแรก

นักเตะคนสำคัญ – Heung Min Son

ตี๋ซน พลพรรคตราไก่เดือยทอง ปีที่แล้วฟอร์มการเล่นต้องบอกว่าม็อปสุดละในชีวิตการค้าแข้ง โดยได้ดาวซัลโวร่วมกับ โม ซาล่าห์ แต่หลังจากเจ็บไปนี้มาฤดูกาลนี้ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้างดังเก่า ทำให้เกาหลีใต้เองก็อาจจะลำบากมากขึ้น เพราะความหวังทั้งหมู่บ้านมันอยู่ที่เขานี่แหละ ดังนั้นหากซนไม่สามารถเดินเกมส์เล่นได้ถนัด ดูแล้วก็คงจอดที่รอบแบ่งกลุ่มนี่แหละ

จัดอันดับ – ไม่ติดทีมเต็ง

Facebook