football kapook สมัคร ufabet เว็บตรง แทงบอล 888 ทายผล 14/12/22

football kapook ฝรั่งเศส vs โมร็อคโก [ 14 Dec 22 - 02:00 hrs]

สรุปทีเด็ด – ฝรั่งเศส ตัวเต็งแชมป์ปีนี้ ก็ยังถือว่าฟอร์มยังร้อนแรง ผ่านด่านโหดมาหลายนัด กวาดชัย 4 จาก 5 เกมรอบสุดท้าย และพ่ายเกมเดียวจาก 5 นัดที่ผ่านมา และสามารถผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายมาได้ด้วยการเฉือน อังกฤษ ในรอบ 8 ทีม 2-1 แม้ผลงานในเกมกับอังกฤษจะต่ำกว่ามาตรฐานแต่พวกเขาก็ยังเอาตัวรอดจากความเฉียบคมในการจบสกอร์ไปได้ นัดนี้ถือว่าทีมผู้เล่นก็มีความฟิตพร้อมกันอย่างดี มีความเฉียบคมดุดันในการทำประตู มีเกมรุกหลากหลาย นักแตะแต่ล่ะตัวมีความสามารถเฉพาะตัวดีมากกว่า เรียกว่าสมารถสร้างความปั่นปวนให้กับแนวรับของที่คู่แข่งได้เสมอ แชมป์เก่าอย่าง ฝรั่งเศส มีประสบการณ์ในรอบรองชนะเลิศมาหลายครั้ง football kapook แน่นอนว่าพวกเขาคงจะไม่เปลี่ยนทีมมากนัก โดยผู้เล่นอย่าง ราฟาแอล วาราน, อองตวน กรีซมันน์, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่กำลังชิงดาวซัลโวของทัวร์นเมนต์ และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ น่าจะได้ลงสนามกันอย่างพร้อมเพรียง ส่วนโมร็อกโก ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาได้แบบม้ามืดนอกสาย พึ่งจะเข้ามาถึงรอบนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ผ่านมาได้ทั้ง เบลเยียม, สเปน และโปรตุเกส สามารถคว้าชัยรวม 3 ใน 4 นัดหลัง พร้อมเก็บ 4 คลีนชีต ไม่เสียประตูให้กับผู้ใด และไร้พ่ายจากการลงสนาม 5 เกมรอบสุดท้าย ผลงานในเกมที่เอาชนะ โปรตุเกส ก็ได้รับคำชมอย่างมาก คงต้องยกเครดิตให้กับทั้งนักเตะและกุนซือ ที่เล่นกันอย่างมีระเบียบวินัย มีความยืดหยุ่นในแนวรับ เกมนี้ความเฉียบคมน่าจะเป็นตัวชี้ขาดว่าใครจะได้เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ หากเทียบฟอร์มและความสามารถนักเตะของทั้งสองทีม แน่นอนฝรั่งเศสดูดีกว่ามากในเรื่องชื่อชั้นนักเตะแต่ถ้าเป็นฟอร์มถือว่ามีการเล่นที่ดีเยี่ยมทั้ง 2 ทีม โดยรูปเกมในนัดนี้ ฝรั่งเศสจะเป็นฝ่ายครองบอลบุกตามฟอร์ม และโมร็อคกจะมาในแผนตั้งรับต่ำ เหมือนในนัดที่เจอกับสเปน ปิดพื้นที่อย่างใจเย็นพลางหาโอกาสในการสวนกลับ หากพวกเขายังไม่ตามหลังและคิดว่าจะยื้อเวลาไปจนถึงการดวลจุดโทษ ต้องดูว่า โมร็อคโกจะมีสมาธิกับเกมส์ได้มากเพียงใด นี่จะเป็นนัดที่ต้องตัดสินความสามารถ ว่าโมร็อคโกจะสามารถเอาตัวรอดผ่านไปได้มั๊ย แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมั่นใจว่า ฝรั่งเศส จะเป็นคนคว้าชัยปิดฉาก โมร็อกโก ได้ในที่สุดอยู่ดี

France – ทีมชาติฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ แชมป์เก่า ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ หลังเฉือนชนะ อังกฤษ 2-1 จากประตูของ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทั้งๆที่ทีมขาดนักเตะสำคัญๆอย่าง “พอล ป็อกบา” , “เอ็นโกโล ก็องเต” และ “คาริม เบนเซมา” แต่ยังคงมีเกมรุกอันน่าทึ่งและดุดัน เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและเฉียบคมอย่างแท้จริง เกมส์นี้คาดว่าจะยังใช้ระบบหลัก 4-2-3-1 จะยึดพวกแกนหลักเอาไว้ตามเดิมโดยต้องลุ้นอาการของ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ปราการหลังตัวกลาง และ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ กลางรับ ที่ไม่ได้ลงซ้อม โดย อูปาเมกาโน่ ป่วยมีอาการเจ็บคอและคล้ายเป็นไข้หวัด ส่วน ชูอาเมนี่ บาดเจ็บเล็กน้อย จึงต้องกายภาพ ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ และ เตโอ แอร์กนองเดซ ลงมาผนึกเกมรับในแดนหลัง ส่วนกองกลางใช้ ออเลเรียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์, อุสมาน เดมเบเล่ และ อองตวน กรีซมันน์ ร่วมกันปั้นเกมสร้างโอกาสการบุกในแดนกลางให้กับทีม ส่วนกองหน้าใช้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่นำเป็นดาวซัลโวที่ 5 ประตู และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยืนเป็นหน้าเป้าปิดสกอร์ หากหัวหอกวัย 36 ปี ยิงประตูได้เพิ่มจะทำสถิตินักเตะอายุเยอะที่สุดที่ยิงได้ 5 ประตูในฟุตบอลโลกทันที

Morocco – ทีมชาติโมร็อกโกภายใต้การคุมทีมของ วาลิด เรกรากุย กุนซือที่เกิดยังฝรั่งเศส ได้สร้างประวัติศาสตร์พาทีมชาติโมร็อกโก พาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศ ทำให้โมร็อคโกกลายเป็นทีมจากแอฟริกา ทีมแรกที่สามารถเข้ารอบรองชนะเลิศ ในฟุตยอลโลก 2022 หลังเบียดเอาชนะ โปรตุเกส 1-0 จากประตูชัยของ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ จากการลงเล่น 5 นัด ทีมชาติโมร็อกโก เพิ่งเสียไปเพียง 1 ประตูเท่านั้นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แถมประตูที่เสียไปยังเป็นการทำเข้าประตูตัวเองเสียด้วย ทำให้เก็บคลีนชีตได้ถึง 4 นัด ยังไม่แพ้ใครเลยในทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งสถิติการป้องกันอันแข็งแกร่งในระดับนี้ เคยส่งให้ ทีมชาติสเปน และ อิตาลี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วในปี 2010 และปี 2006 โดยทั้งคู่เก็บคลีนชีตได้ 5 นัด ก่อนก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลก ความพร้อมนัดนี้คาดว่าจะมาในระบบ 4-3-3 ทีมจะไม่สามารถใช้งาน นาเยฟ อเกิร์ด ที่ได้รับบาดเจ็บแฮมสตริงน่าจะไม่สามารถช่วยทีมได้ ส่วน วาลิด เชดดิร่า นั่นมีติดโทษแบนเพิ่มเข้ามาจะไม่สามารถลงสนามได้ในนัดนี้ และทีมยังต้องเช็ค โรแม็ง ซาอิสส์, และ นูสแซร์ มาซราอุย ที่ยังต้องเช็คความฟิตอีกครั้งว่าจะลงสนามในนัดนี้ได้หรือไม่ ส่วนตัวหลักอย่าง อาชราฟ ฮาคิมี่,ฮาคิม ซิเย็ค และ โซฟิยาน บูฟาล พร้อมลงสนามตั้งแต่ต้นเกมทั้งหมด โดย คาดว่าน่าจะส่งกองหลังอย่าง อาชราฟ ฮาคิมี่, จาวาด เอล ยามิค, โรแม็ง ซาอิสส์ และ นูสแซร์ มาซราอุย ลงมาช่วยคุมแผงหลังให้กับทีม ส่วนกองกลางใช้ อัซเซดีน ฮูนาไฮ, ซอฟยาน อัมราบัต, เซลิม อมาลลาห์ และ ฮาคิม ซิเย็ค ลงมาปั้นเกมแดนกลางให้กับทีม แดนหน้าฝากความหวังไว้ที่สามประสาน ฮาคิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ และ โซฟิยาน บูฟัล

11 Player –

France (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส – ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ – ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียน ราบิโอต์ – อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คิเลียน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

Morocco (4-3-3) : ยัสซีน โบนู – อาชราฟ ฮาคิมี่, ยาวัด เอล ยามิก, อาชราฟ ดารี, นุยาเฮีย อัตติยัต อัลลาห์ – อัซเซดีน อูนาอี, โซฟิยาน อัมราบัต, เซลิม อามัลลาห์ – ฮาคีม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็นเนสรี่, โซฟิยาน บูฟาล

Missing Player

France : Lucas Hernandez
Morocco : H.Ziyech, R.Saiss, N.Mazraoui, N.Aguerd, A.Sabiri, W.Cheddira

เฮียฟู ฟันธง ฝรั่งเศส 2 – 0 โมร็อคโก

League	เวลา	คู่แข่งขัน	วางใจ	ราคา	สกอร์	ทรรศนะคติโดยเฮียฟู	บทความฉบับเต็ม
Fifa wolrd Cup 2022	02.00	ฝรั่งเศส - โมร็อคโก	ฝรั่งเศส	1.0	2-0	เกมส์รุกดุดันน่าจะต้านได้ยาก